สภาพการปกครอง และการบริหารด้านเศรษฐกิจของลาวเริ่มผ่อนคลายมากขึ้นในระยะหลังของทศวรรษ 1980 ต่อมาเมื่อเจ้าสุภานุวงศ์สละตำแหน่งจากประธาน ผู้ดำรงตำแหน่งประธานประเทศต่อจากเจ้าสุภานุวงศ์คือ ท่านไกสอน พมวิหาน และเมื่อท่านไกสอนถึงแก่กรรมกระทันหัน ท่าน หนูฮัก พูมสะหวัน ก็ได้ดำรงตำแหน่งประธานประเทศต่อมา ยุคนี้ลาวกับไทยเปิดสะพานมิตรภาพ ไทย - ลาว ในปี พ.ศ. 2538 ต่อมาท่านหนูฮักสละตำแหน่ง ท่านคำไต สีพันดอนรับดำรงตำแหน่งประธานประเทศต่อ จนถึงปี พ.ศ. 2549 ท่านคำไตลงจากตำแหน่ง ท่านจูมมะลี ไซยะสอน จึงเป็นผู้ที่รับตำแหน่งประธานประเทศลาวคนปัจจุบัน
[แก้] การเมือง
สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาวมีระบบการปกครองแบบสังคมนิยมคอมมิวนิสต์ (ทางการลาวใช้คำว่า ระบอบประชาธิปไตยประชาชน) โดยมีพรรคประชาชนปฏิวัติลาวเป็นองค์กรชี้นำประเทศ ซึ่งพรรคนี้เริ่มมีอำนาจสูงสุดตั้งแต่ลาวเริ่มปกครองในระบอบสังคมนิยมเมื่อวันที่ 2 ธันวาคม พ.ศ. 2518 ประธานประเทศ (ประธานาธิบดี) ของสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาวคนปัจจุบัน ซึ่งมีวาระการดำรงตำแหน่ง 5 ปี คือ พลโทจูมมะลี ไซยะสอน (ดำรงตำแหน่งเลขาธิการใหญ่คณะบริหารงานศูนย์กลางพรรคประชาชนปฏิวัติลาวอีกตำแหน่งหนึ่ง) ส่วนนายกรัฐมนตรีคนปัจจุบันคือนายบัวสอน บุบผาวัน
[แก้] สถาบันการเมืองที่สำคัญ
พรรคประชาชนปฏิวัติลาว
สภารัฐมนตรี (สภาแห่งชาติแต่งตั้งคณะรัฐมนตรี)
สภาแห่งชาติลาว (ประชาชนเลือกสมาชิกสภาแห่งชาติจากผู้ที่พรรคฯ เสนอ)
แนวลาวสร้างชาติ
องค์กรจัดตั้ง เช่น สหพันธ์วัยหนุ่มลาว (สหพันธ์เยาวชน) สหพันธ์แม่หญิงลาว (สมาคมสตรี) กรรมบาลลาว (สหพันธ์กรรมกร) ซึ่งได้รับการสนับสนุนโดยพรรคประชาชนปฏิวัติลาว
[แก้] การจัดตั้งและการบริหาร
หลายหมู่บ้านรวมกันเป็น เมือง (ก่อนหน้านี้จัดให้หลายหมู่บ้านรวมกันเป็น ตาแสง มีตาแสงเป็นผู้ปกครอง หลายตาแสงรวมกันจึงเรียกว่า เมือง)
หลายเมืองรวมกันเป็น แขวง
"คณะกรรมการปกครองหมู่บ้าน" มี นายบ้าน เป็นหัวหน้า เป็นผู้บริหารของหมู่บ้าน
"คณะกรรมการปกครองเมือง" มี เจ้าเมือง เป็นหัวหน้า เป็นผู้บริหารเมือง
"คณะกรรมการปกครองแขวง" มี เจ้าแขวง เป็นหัวหน้า เป็นผู้บริหารแขวง
"คณะกรรมการปกครองนครหลวง" มี เจ้าครองนครหลวง เป็นหัวหน้า เป็นผู้บริหารนครหลวง
"ระดับศูนย์กลาง" มีกระทรวง คณะกรรมการเป็นผู้ดูแลและบริหาร
[แก้] การแบ่งเขตการปกครอง
Laos provinces.png
ด่านพรมแดนช่องเม็ก แขวงจำปาสัก ประเทศลาว
ดูบทความหลักที่ แขวงในประเทศลาว
ลาวแบ่งเป็น 16 แขวง ในหนึ่งแขวงจะมีหลาย เมือง ซึ่งจะมีหนึ่งเมืองเป็นเมืองหลวงเรียกว่า เมืองเอก และ 1 เขตปกครองพิเศษเรียกว่า นครหลวง ดังแสดงในตารางต่อไปนี้
ชื่อ ชื่อลาว เมืองเอก พื้นที่ (km²) ประชากร
(ปี 2547)
1. แขวงอัดตะปือ ແຂວງອັດຕະປື เมืองสามักคีไซ 10,320 114,300
2. แขวงบ่อแก้ว ແຂວງບໍ່ແກ້ວ เมืองห้วยซาย 6,196 149,700
3. แขวงบอลิคำไซ ແຂວງບໍລິຄໍາໄຊ เมืองปากซัน 14,863 214,900
4. แขวงจำปาสัก ແຂວງຈໍາປາສັກ เมืองปากเซ 15,415 575,600
5. แขวงหัวพัน ແຂວງຫົວພັນ เมืองซำเหนือ 16,500 322,200
6. แขวงคำม่วน ແຂວງຄໍາມ່ວນ เมืองท่าแขก 16,315 358,800
7. แขวงหลวงน้ำทา ແຂວງຫຼວງນ້ຳທາ เมืองหลวงน้ำทา 9,325 150,100
8. แขวงหลวงพระบาง ແຂວງຫຼວງພະບາງ เมืองหลวงพระบาง 16,875 408,800
9. แขวงอุดมไซ ແຂວງອຸດົມໄຊ เมืองไซ 15,370 275,300
10. แขวงพงสาลี ແຂວງຜົ້ງສາລີ เมืองพงสาลี 16,270 199,900
11. แขวงสาละวัน ແຂວງສາລະວັນ เมืองสาละวัน 10,691 336,600
12. แขวงสะหวันนะเขด ແຂວງສະຫວັນນະເຂດ เมืองไกสอน พมวิหาน 21,774 721,500
13. นครหลวงเวียงจันทน์ ນະຄອນຫຼວງວຽງຈັນ นครหลวงเวียงจันทน์
(ประกอบด้วยเมืองจันทะบูลี, เมืองสีสัดตะนาก,
เมืองไซเสดถา เมืองสีโคดตะบอง
เมืองหาดซายฟอง และ ตอนใต้ของเมืองไซทานี) 3,920 692,900
14. แขวงเวียงจันทน์ ແຂວງວຽງຈັນ เมืองโพนโฮง 15,927 373,700
15. แขวงไซยะบูลี ແຂວງໄຊຍະບູລີ เมืองไซยะบูลี 16,389 382,200
17. แขวงเซกอง ແຂວງເຊກອງ เมืองละมาม 7,665 83,600
18. แขวงเชียงขวาง ແຂວງຊຽງຂວາງ เมืองโพนสะหวัน 15,880 262,200
ในวันที่ 27 กุมภาพันธ์ 2549 ได้มีการยุบเขตพิเศษไซสมบูน (ເຂດພິເສດໄຊສົມບູນ; หมายเลข 16 ในแผนที่) อย่างเป็นทางการ ตามดำรัสนายกรัฐมนตรี (คำสั่งนายกรัฐมนตรี) เลขที่ 10/ນຍ. ลงวันที่ 13 มกราคม 2549 โดยเมืองท่าโทมถูกรวมกับแขวงเชียงขวาง และเมืองไซสมบูนถูกรวมกับแขวงเวียงจันทน์
[แก้] เศรษฐกิจ
ภาวะเศรษฐกิจของ สปป.ลาวมีพัฒนาการที่ดีตามลำดับ โดยในช่วง 20 ปีนับตั้งแต่ปรับเปลี่ยนระบบเศรษฐกิจแบบสังคมนิยมสู่ระบบเศรษฐกิจเสรีการตลาดเมื่อปี 2529 สปป.ลาวมีการขยายตัวทางเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่องในอัตราเฉลี่ยร้อยละ 6.2 ต่อปี ประชากรมีรายได้เพิ่มขึ้นจากประมาณ 200 ดอลลาร์สหรัฐเมื่อปี 2529 เป็น 491 ดอลลาร์สหรัฐในปี 2548 ภาคอุตสาหกรรมขยายตัวในอัตราไม่ต่ำกว่า ร้อยละ 10 ต่อปี โดยอุตสาหกรรมพลังงานไฟฟ้าเป็นสาขาหลักที่สร้างรายได้ให้แก่ประเทศ
อย่างไรก็ดี ลาวยังคงประสบปัญหาที่ต้องเร่งแก้ไข ที่สำคัญได้แก่ ปัญหาราคาน้ำมัน ที่เพิ่มสูงขึ้น ปัญหาการขาดดุลการค้าในอัตราสูง ค่าเงินกีบไม่มีเสถียรภาพ การจัดเก็บรายได้ต่ำกว่าเป้าหมาย และปัญหาการฉ้อราษฎร์บังหลวง
ทรัพยากรสำคัญของลาว ได้แก่ ไม้ ดีบุก ยิบซั่ม ตะกั่ว หินเกลือ เหล็ก ถ่านหินลิกไนต์ สังกะสี ทองคำ อัญมณี หินอ่อน น้ำมัน และแหล่งน้ำผลิตไฟฟ้า
[แก้] การลงทุน
การลงทุน รัฐบาลลาวได้ปรับปรุงกฎระเบียบเพื่อเสริมสร้างบรรยากาศให้เอื้ออำนวยต่อการลงทุนมากยิ่งขึ้น อาทิ มาตรการด้านภาษี อนุญาตให้นครหลวงเวียงจันทน์ แขวงจำปาสัก และแขวงหลวงพระบาง มีอำนาจอนุมัติโครงการลงทุนที่มีมูลค่าไม่เกิน 2 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ส่วนแขวงอื่น ๆ สามารถอนุมัติโครงการลงทุนที่มีมูลค่าลงทุนไม่เกิน 1 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ทำให้การลงทุนจากต่างประเทศในลาวมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยในปี 2546 มีมูลค่า 465 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ปี 2547 มีมูลค่า 533 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และปี 2548 มีมูลค่า 1.6 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ นักลงทุนที่สำคัญ ได้แก่ ไทย เวียดนาม ฝรั่งเศส ออสเตรเลีย จีน
[แก้] โครงการความร่วมมือในภูมิภาคใกล้เคียง
อาเซียน ลาวเข้าเป็นสมาชิกอาเซียนเมื่อเดือนกรกฎาคม 2540 ได้เป็นประธาน คณะกรรมการประจำอาเซียนเมื่อกรกฎาคม 2547
ยุทธศาสตร์ความร่วมมือทางเศรษฐกิจอิระวดี-เจ้าพระยา-แม่โขง (Ayeyawady-Chao Phraya-Mekong Economic Cooperation Strategy - ACMECS)
ความร่วมมือในกรอบสามเหลี่ยมมรกต
[แก้] การนำเข้าและการส่งออก
สินค้าส่งออกที่สำคัญของลาว ได้แก่เสื้อผ้าสำเร็จรูป ไม้ซุง ไม้แปรรูป ผลิตภัณฑ์ไม้ สินแร่ เศษโลหะ ถ่านหิน หนังดิบ และหนังฟอก ข้าวโพด ใบยาสูบ กาแฟ โดยส่งออกไปยังประเทศไทย เวียดนาม ฝรั่งเศส ญี่ปุ่น เยอรมนี สหราชอาณาจักร สหรัฐอเมริกา เนเธอร์แลนด์ และเยอรมนี ส่วนการนำเข้าสินค้า ประเทศลาวได้นำเข้าสินค้าจากไทย จีน เวียดนาม สิงคโปร์ ญี่ปุ่น ออสเตรเลีย เยอรมนี โดยสินค้าที่สำคัญได้แก่ รถจักรยานยนต์และส่วนประกอบ เครื่องจักรกล เครื่องใช้ไฟฟ้าที่ให้ความร้อน อาหาร ผ้าผืน สารเคมี และเครื่องอุปโภคบริโภค
[แก้] สื่อสารมวลชน
สื่อในประเทศลาวล้วนอยู่ในความดูแลของรัฐโดยตรง รัฐบาลลาวมีสำนักข่าวสารประเทศลาว (ขปล.) เป็นสำนักข่าวแห่งชาติที่เผยแพร่ข่าวของรัฐ ส่วนหนังสือพิมพ์ภาษาลาวที่สำคัญในประเทศได้แก่ หนังสือพิมพ์ประชาชนซึ่งเป็นกระบอกเสียงของพรรคประชาชนปฏิวัติลาว และหนังสือพิมพ์เวียงจันทน์ใหม่ นอกจากนี้ยังมีหนังสือพิมพ์ภาษาต่างประเทศอีก 2 ฉบับ คือ หนังสือพิมพ์เวียงจันทน์ไทม์ส (Vientiane Times) ซึ่งเป็นหนังสือพิมพ์ภาษาอังกฤษ และหนังสือพิมพ์ "เลอเรโนวาเตอร์" (Le Rénovateur) ซึ่งเป็นหนังสือพิมพ์ภาษาฝรั่งเศส
ในประเทศลาวมีสถานีโทรทัศน์เพียง 3 สถานี คือ สถานีโทรทัศน์แห่งประเทศลาว (สทล.) ซี่งเป็นสถานีโทรทัศน์ของรัฐ ออกอากาศผ่านเครือข่ายสถานีในประเทศ สถานีโทรทัศน์ลาวสตาร์แชนแนล และสถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งชาติลาว (LRT) ออกอากาศผ่านทางระบบดาวเทียมไทยคม 5 สถานีแห่งนี้เป็นสถานีโทรทัศน์ของเอกชนที่ดำเนินการภายใต้สัมปทานของรัฐ อนึ่ง ชาวลาวที่อยู่ตามชายแดนไทยและชาวลาวที่มีฐานะพอจะซื้อจานดาวเทียมได้จะนิยมดูรายการโทรทัศน์ช่องต่างๆ ของไทยเสียมากกว่า
ด้านการใช้อินเทอร์เน็ต ตามหัวเมืองใหญ่และนครหลวงมีการเปิดให้บริการอินเทอร์เน็ตคาเฟ่โดยทั่วไป และได้รับความนิยมอย่างยิ่งในหมู่เยาวชนรุ่นใหม่ อย่างไรก็ตาม รัฐบาลลาวก็ได้มีเซ็นเซอร์เนื้อหาและการเข้าถึงข้อมูลอินเทอร์เน็ตอย่างเข้มงวดเนื่องจากเป็นประเทศที่ปกครองโดยรัฐบาลคอมมิวนิสต์
[แก้] สังคม
[แก้] ประชากร
เด็กหญิงชนเผ่ากะตู้ หนึ่งในกลุ่มชนชาติลาวเทิงของประเทศลาว
จากสถิติในปี พ.ศ. 2548 (ตามข้อมูลกระทรวงการต่างประเทศของไทย) ประเทศลาวมีประชากรรวม 6,068,117 คน ประกอบด้วยชนชาติต่างๆ หลากหลายเชื้อชาติ ซึ่งในภาษาลาวจะเรียกรวมกันว่า "ประชาชนบรรดาเผ่า" สามารถจำแนกได้เป็น 68 ชนเผ่าโดยประมาณ แบ่งเป็น 3 กลุ่มใหญ่ตามถิ่นที่อยู่อาศัย ดังนี้
ลาวลุ่ม หมายถึงชาวลาวที่อาศัยอยู่ในเขตที่ราบ ส่วนใหญ่ได้แก่คนเชื้อชาติลาว ภูไท ไทดำ ไทลื้อ ฯลฯ ใช้ภาษาลาวหรือภาษาตระกูลภาษาไทเป็นภาษาหลัก ประชาชนกลุ่มนี้มีอยู่ร้อยละ 68 ของจำนวนประชากรทั้งหมดและอาศัยกระจายอยู่ทั่วประเทศ ถือว่าเป็นกลุ่มชาวลาวที่มีจำนวนมากที่สุดในประเทศ
ลาวเทิง หมายถึงชาวลาวที่อาศัยอยู่ในเขตที่ราบสูง เช่น ชาวบรู มะกอง งวน ตะโอย ตาเลียง ละเม็ด ละเวน กะตัง ฯลฯ ส่วนใหญ่อาศัยอยู่ทางภาคใต้ของประเทศ เช่น แขวงจำปาสัก แขวงเซกอง แขวงอัตตะปือ คิดเป็นร้อยละ 22 ของจำนวนประชากรทั้งหมด
ลาวสูง หมายถึงชาวลาวที่อาศัยอยู่ในเขตภูเขาสูง เช่น ชาวม้ง เย้า มูเซอ ผู้น้อย และชาวเขาเผ่าต่างๆ ส่วนมากอาศัยอยู่ในเขตภาคเหนือของลาว เช่น แขวงหลวงพระบาง แขวงเชียงขวาง และตามแนวตะเข็บชายแดนภาคเหนือ ชาวลาวกลุ่มนี้คิดเป็นจำนวนร้อยละ 9 ของจำนวนประชากรทั้งหมด
นอกจากนี้ยังมีชาวลาวเชื้อสายเวียดนาม ชาวลาวเชื้อสายจีน รวมทั้งชาวต่างชาติอื่นๆ ในลาวคิดเป็นร้อยละ 2 ของจำนวนประชากรทั้งหมดด้วย
[แก้] ภาษา
ประเทศลาวใช้ภาษาลาวเป็นภาษาทางการทั้งในส่วนของภาษาพูดและระบบการเขียน ส่วนในกลุ่มชาวลาวเทิงและชาวลาวสูงยังคงมีการใช้ภาษาประจำเผ่าของตนควบคู่กับภาษาลาว ส่วนภาษาต่างประเทศอื่นที่มีการใช้ได้แก่ภาษาฝรั่งเศสซึ่งมีการใช้มาตั้งแต่สมัยอาณานิคม ปัจจุบันยังคงใช้ในวงราชการและการติดต่อค้าขายบ้าง อีกภาษาหนึ่งที่สำคัญคือภาษาอังกฤษซึ่งใช้ในการติดต่อกับต่างประเทศและการค้า ซึ่งนับวันการศึกษาภาษาอังกฤษก็ยิ่งจะขยายตัวมากขึ้นเรื่อยๆ
สำหรับอัตราการรู้หนังสือของลาวนั้น ประชากรเพศชายรู้หนังสือร้อยละ 67 หญิงร้อยละ 43 เมื่อคิดเฉลี่ยรวมทั้งสองเพศแล้วปรากฏว่าประเทศลาวมีอัตราประชากรที่รู้หนังสือ ร้อยละ 56
[แก้] ศาสนา
พระธาตุหลวง กรุงเวียงจันทน์ ศาสนสถานที่สำคัญที่สุดในประเทศ
ชาวลาวส่วนใหญ่นับถือศาสนาพุทธนิกายเถรวาทซึ่งเป็นศาสนาประจำชาติ (ร้อยละ 60 ของชาวลาวทั้งหมด) ควบคู่ไปกับลัทธินับถือผีบรรพบุรุษของชนชาติส่วนน้อยในแถบภูเขาสูง ส่วนชาวลาวที่นับถือศาสนาคริสต์และศาสนาอิสลามมีจำนวนที่ค่อนข้างน้อยมาก โดยศาสนาคริสต์ส่วนมากจะมีผู้นับถือเป็นกลุ่มชาวเวียดนามอพยพและชาวลาวเชื้อสายเวียดนาม ส่วนศาสนาอิสลามพบว่ามีการนับถือในหมู่ชนชาติส่วนน้อยจีนฮ่อที่อาศัยตามชายแดนด้านติดกับประเทศพม่า และมีชุมชนมุสลิมที่มีเชื้อสายเอเชียใต้ และจามในเวียงจันทน์
[แก้] วัฒนธรรม
มีความคล้ายคลึงกับคนภาคอิสานของไทยเป็นอย่างมาก ยังมีคำกล่าวที่ว่า “ มีลาวอยู่แห่งใด มีมัดหมี่ แลลายจกอยู่ที่นั้น ” ในด้านดนตรี ลาวมีแคนเป็นเครื่องดนตรีประจำชาติ มีหมอขับ หมอลำ ลาวมีประเพณีทางพระพุทธศาสนาและอื่นๆ เช่น วันมาฆบูชา วันสงกรานต์ วันออกพรรษา บุญเข้าประดับดิน บุญเข้าฉลาก บุญส่วงเฮือ (แข่งเรือ) บุญธาตุหลวงเวียงจันทน์ ในเดือน 12 เป็นต้น
พุทธศาสนาแบบเถรวาท นับเป็นแบบแผนหลักของวัฒนธรรมลาว ซึ่งปรากฏให้เห็นทั่วประเทศ ทั้งในด้านภาษา และศิลปะ วรรณคดี ศิลปะการแสดง ฯลฯ สำหรับดนตรีลาวนั้นมี แคน ซึ่งเป็นเครื่องดนตรีประจำชาติ วงดนตรีของลาวก็คือวงหมอลำ มีหมอลำ และหมอแคน ท่วงทำนองของการขับลำจะแตกต่างกันไปตามท้องถิ่น ทางภาคเหนือเรียกว่าขับ ภาคใต้จากบอลิคำไซลงไปเรียกว่าลำ เช่น ขับงึมเวียงจันทน์ ขับพวนเซียงขวง ลำสาละวันของแขวงสาละวัน ลำภูไท ลำตังหวาย ลำคอนสะหวัน ลำบ้านซอกของแขวงสะหวันนะเขต ขับโสม ลำสีพันดอนของแขวงจำปาสัก ลำมะหาไซของแขวงคำม่วน ขับทุ่มของแขวงหลวงพระบาง ขับลื้อของชาวลื้อ เป็นต้น
การแต่งกายที่เป็นเอกลักษณ์ อย่างหนึ่งของลาวคือผู้หญิงจะนุ่งผ้าซิ่น (ผ้าถุง)
อาหารของคนลาว ลาวจะทานข้าวเหนียวเป็นหลัก อาหารที่เป็นเอกลักษณ์คือ แจ่ว ส้มตำ ไก่ย่าง เป็นต้น
อารยธรรมเก่าแก่ของลาวนั้น มีปรากฏจากหลักฐานด้านโบราณคดียุคหินที่ทุ่งไหหินในแขวงเชียงขวาง
[แก้] วันสำคัญ
เทศกาลและวันหยุดราชการ วันที่ ชื่อภาษาไทย ชื่อภาษาลาว หมายเหตุ
1 มกราคม วันขึ้นปีใหม่ บุญปีใหม่สากล วันหยุดราชการ
20 มกราคม วันสถาปนากองทัพประชาชนลาว วันสร้างตั้งกองทัพประชาชนลาว วันหยุดราชการ
ปลาย ม.ค./ต้น ก.พ. วันตรุษจีนและตรุษญวน (kou jine) เป็นวันขึ้นปีใหม่ของชาวจีนและเวียดนาม ขึ้นกับปฏิทินจันทรคติ ลาวค่อนข้างให้ความสำคัญกับวันนี้เป็นพิเศษ เพราะลาวมีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับเวียดนาม มีชาวเวียดนามจำนวนค่อนข้างมากอาศัยอยู่ในลาว
กุมภาพันธ์ วันมาฆบูชา ขึ้นกับปฏิทินจันทรคติ สำหรับวันมาฆบูชา วันวิสาขบูชา วันอาสาฬหบูชา นั้นชาวลาวไม่ค่อยถือปฏิบัติมากนัก ส่วนใหญ่จะเป็นพระสงฆ์ในวัดบางแห่งถือปฏิบัติเท่านั้น ซึ่งแตกต่างจากไทย
กุมภาพันธ์ บุญข้าวจี่, บุญกองข้าว, บุญไขประตูเล้า ขึ้นกับปฏิทินจันทรคติ เป็นเทศกาลที่จัดขึ้นหลังเก็บเกี่ยวแล้วเสร็จ
มีนาคม บุญผะเหวด หรือบุญมหาชาติ นิยมจัดขึ้นในเดือน 4 ตามปฏิทินจันทรคติของลาว (ปฏิทินจันทรคติของลาวบางปีไม่ตรงกับของไทย) คำว่าบุญผะเหวดนี้เลือนมาจากคำว่า "บุญพระเวส" (บุญพระเวสสันดร)
8 มีนาคม วันสตรีสากล วันแม่หญิงสากล วันหยุดราชการ
22 มีนาคม วันสถาปนาพรรคประชาชนปฏิวัติลาว วันสร้างตั้งพรรคประชาชนปฏิวัติลาว วันหยุดราชการ
เมษายน ประมาณวันที่ 14-16 วันสงกรานต์ บุญปีใหม่ลาว วันแรกของปีใหม่ เรียกวันสังขานล่วง วันที่สองเรียกวันเนาว์ วันที่สามเรียกวันสังขานขึ้น บางปีมีวันเนาว์ 2 วัน ทำให้วันเริ่มเทศกาล เป็นวันที่ 13-16 ก็มี หรือบางปีก็เริ่ม วันที่ 14-17 แล้วแต่การคำนวณตามปฏิทินจันทรคติของลาว และเป็นวันหยุดราชการ
1 พฤษภาคม วันแรงงานสากล วันกรรมกรสากล วันหยุดราชการ
พฤษภาคม วันวิสาขบูชา บุญวิสาขบูชา ขึ้นกับปฏิทินจันทรคติ
พฤษภาคม บุญบั้งไฟ นิยมจัดขึ้นในเดือน 6 หรือเดือน 7 ตามปฏิทินทางจันทรคติ เป็นเทศกาลเกี่ยวกับการขอฝน
1 มิถุนายน วันปลูกต้นไม้แห่งชาติ เป็นวันที่รัฐส่งเสริมให้ประชาชนปลูกต้นไม้
กรกฎาคม วันอาสาฬหบูชา บุญอาสาฬหบูชา ขึ้นกับปฏิทินจันทรคติ
กรกฎาคม วันเข้าพรรษา บุญเข้าพรรษา ขึ้นกับปฏิทินจันทรคติ มีการถวายเทียนพรรษาผ้าอาบน้ำฝนเหมือนกับของไทย การถวายเทียนพรรษาและผ้าอาบน้ำฝนลาว จะจัดขึ้นก่อนวันเข้าพรรษาคือในวันขึ้น 15 เดือน 8 หรือในวันอาสาฬหบูชา ซึ่งต่างจากไทย
สิงหาคม บุญข้าวประดับดิน ห่อข้าวปะดับดิน จัดขึ้นในวันแรม 14 ค่ำ เดือน 9 ตามปฏิทินทางจันทรคติเป็นงานทำบุญเพื่อระลึกถึงผู้ล่วงลับไปแล้ว (เน้นอุทิศส่วนกุศลไปให้แก่ไปให้แก่ผีไม่มีญาติ)
กันยายน บุญข้าวสาก หรือข้าวสลาก ห่อข้าวสาก หรือข้าวสลาก จัดขึ้นในวันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 10 ตามปฏิทินทางจันทรคติเป็นงานทำบุญเพื่อระลึกถึงผู้ล่วงลับไปแล้ว (เน้นอุทิศส่วนกุศลไปให้แก่ญาติสนิทที่ล่วงลับโดยตรง)
ตุลาคม วันออกพรรษา บุญออกพรรษา สิ้นสุดฤดูฝน หลายท้องถิ่นมีการลอยกระทง แข่งเรือ และไหลเรือไฟ (ขึ้นกับปฏิทินจันทรคติ)
พฤศจิกายน บุญธาตุหลวง งานนมัสการพระธาตุหลวงเวียงจันทน์ประจำปี
พฤศจิกายน บุญกฐิน จัดขึ้นในเดือน 12 ตามปฏิทินทางจันทรคติ
2 ธันวาคม วันชาติ วันที่ระลึกในการก่อตั้ง สปปล. เมื่อปี พ.ศ. 2518และเป็นวันหยุดราชการ
31 ธันวาคม วันสิ้นปี
[แก้] อันดับในเวทีระหว่างประเทศ
องค์กร หัวข้อสำรวจ อันดับที่
Heritage Foundation/
The Wall Street Journal ดัชนีเสรีภาพทางเศรษฐกิจ
(Index of Economic Freedom) 149 จาก 157
องค์กรสื่อไร้พรมแดน
(Reporters Without Borders) ดัชนีเสรีภาพสื่อทั่วโลก
(Worldwide Press Freedom Index) 156 จาก 167
องค์กรความโปร่งใสนานาชาติ
(Transparency International) ดัชนีความตระหนักในการทุจริตคอร์รัปชั่น
(Corruption Perceptions Index) 163 จาก 179
United Nations Development Programme ดัชนีการพัฒนามนุษย์
(Human Development Index) 130 จาก 177
[แก้] ดูเพิ่ม
การคมนาคมในประเทศลาว
เวียงจันทน์
[แก้] อ้างอิง
^ 1.0 1.1 1.2 1.3 1.4 รัฐธรรมนูญแห่งสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว หมวดที่ 10 ภาษา อักษร เครื่องหมายชาติ ธงชาติ เพลงชาติ วันชาติ สกุลเงิน และนครหลวง
[แก้] แหล่งข้อมูลอื่น
Commons:Category
คอมมอนส์ มีภาพและสื่ออื่นๆ เกี่ยวกับ:
ประเทศลาว
ประเทศลาว ที่ ดีมอซ
ประเทศลาว ข้อมูลการท่องเที่ยวจากวิกิท่องเที่ยว