Author Topic: วัดคินคะคุจิ (Kinkakuji Temple)  (Read 4888 times)

ontcftqvx

  • สมาชิกใหม่
  • *
  • Posts: 0
    • View Profile
วัดคินคะคุจิ (Kinkakuji Temple)
« on: August 06, 2010, 09:09:44 AM »
วัดคินคะคุจิ (Kinkakuji Temple)

วัดคินคะคุจิ (Kinkakuji Temple)    
 
วัดคินคะคุจิ (Kinkakuji Temple) หรือ วัดพลับพลาทอง (Golden Pavilion) หรืออีกชื่อ วัดศาลาทอง เป็นวัดที่ดังเป็นที่รู้จักที่สุดวัดหนึ่งในญี่ปุ่น กล่าวคือหากมาเที่ยวโตเกียวแล้วไม่ได้มาที่วัดนี้ถือว่ายังไม่มาถึงโตเกียว สร้างเมื่อปี พ.ศ. 1940 ศาลาสีทองที่เห็นในปัจจุบันเพิ่งได้รับการแปะผนังทองไปเมื่อปี พ.ศ.2530 ที่ผ่านมา จึงมองเห็นเหลืองอล่ามสะท้อนในสระน้ำอย่างสวยงาม

  
หาก เดินทางไปทางทิศตะวันตกตามถนนคิตะโอจิโดริ จะผ่านสวนสาธารณะฟุนาโอกะยามะโคเอ็น เพื่อไปยังวัดคินคะคุจิ หรือวัดศาลาทอง ซึ่ง รู้จักกันดีที่สุดในเกียวโต วิหารสร้างในปี 1955 จำลองแบบจากของเดิมในศตวรรษที่ 15 และเพิ่งหุ้มทองคำครั้งหลังสุดในปี 1987 วิหารมี 3 ชั้น โดยชั้นแรกมีลักษณะเป็นพระราชวัง ชั้นที่สองเป็นแบบบ้านซามูไร
 
ส่วน ชั้นที่สามเป็นแบบวัดเซน คินคะคุจิตั้งอยู่กลางทัศนียภาพอันเหมาะเจาะ ผืนน้ำในสระกว้างเบื้องหน้าสะท้อนประกายระยับกั้นโอบด้วยแมกไม้ สวนเดินเล่นที่มีชื่อเสียงมากที่สุดแห่งหนึ่งของญี่ปุ่นตั้งอยู่ในบริเวณคัต สึระริคิว หรือพระตำหนักแปรพระราชฐานคัตสึระ ซึ่งอยู่ทางตะวันตกของสถานีเกียวโตบนฝั่งตะวันตกของแม่น้ำคัดสึระงาวะ สวนนี้มีเรือนน้ำชาชั้นดีหลายแห่งซึ่งมองออกไปแลเห็นสระน้ำกว้างตรงกลาง ความประณีตงามเรียบของพระตำหนักที่ชูงะคุอิง ทางด้านตะวันออกเฉียงเหนือซึ่งเป็นอาคารสามชั้นนั้นดูเพริศไปด้วยจินตนาการ มากกว่าหากเทียบกับพระตำหนักคัตสึระ
 
ท่าน อาจจะจำได้ การ์ตูนเรื่องอิคิวซัง เณรน้อยเจ้าปัญญา ก็จำลองเรื่องราวเหตุการณ์ของศาลาทองในวัดนี้ให้เป็นปราสาทของท่านโชกุน (โชกุนอาชิกางะ โยชิมิสึ ( Ashikaga Yoshimistsu)) และบุตรชายของเขาที่เป็นเจ้าของพลับพลาหลังนี้ ก่อนที่จะยกให้เป็นทรัพย์สมบัติของวัดโรกุนนอนจิ (Rokuonji : อีกชื่อของวัดนี้) ในเวลาต่อมา พลับพลาหลังนี้เคยถูกลอบวางเพลิงในปี พ.ศ.2493 โดยพระภิกษุที่บวชอยู่ในวัด พระรูปนี้บวชเข้ามาแล้วเกิดความหลงใหลในความงามของพระวิหารและคิดว่าการที่ จะเข้าถึงแก่นแท้ของความงานต้องเผาทำลายวัตถุแห่งความงามนั้นไปด้วย จึงได้มีการสร้างใหม่เมื่อปี พ.ศ. 2498
ก่อนทางออกจะมีการขอพรโดยการเขียนขอพรที่แผ่นไม้ “อิกคิว” โดยส่วนมากจะเขียนขอให้มีสติปัญญาหลักแหลม ฉลาดแบบอิกคิวซัง
  
  
การเดินทางไป วัดกินคะคุจิ (Ginkakuji Temple)
นั่ง รถบัสสาย 101, 102, 204, 205 จากสถานีรถไฟเกียวโต ลงที่ป้าย Kinkakuji-michi แล้วเดินต่ออีก 300 เมตร (ประมาณ 5 นาที) จะถึงทางเข้าวัด
นั่งรถบัสสาย 12, 59 ลงที่ป้าย Kinkakuji-mae
*** แนะนำให้ซื้อ ตั๋วแบบวันเดย์พาส Kyoto City Buses One Day Pass ในราคา 500 เยน สามารถขึ้นรถบัสในเมืองเกียวโตได้ทุกสายไม่จำกัดจำนวนเที่ยว หาซื้อได้ที่ ศูนย์บริการนักท่องเที่ยว บริเวณขวามือเมื่อออกจากประตูสถานีรถไฟ(หันหน้าไปที่เกียวโตโดม)
เวลาเปิด
09.00-17.00 น.
ค่าเข้าชม
ผู้ใหญ่ 400 เยน
เด็ก 300 เยน
« Last Edit: March 09, 2011, 11:33:20 AM by webdesign »