ชื่อบริษัทที่เหมาะสมจะช่วยให้คุณแตกต่างจากคู่แข่งและช่วยสร้างภาพพจน์ให้ กับบริษัทได้อีกด้วย ถึงแม้ชื่อบริษัทอาจจะไม่ได้มีผลโดยตรงกับการทำงานของบริษัทหรือลดยอดขายของ คุณลง แต่ก็ควรพิจารณา 10 ข้อต่อไปนี้เมื่อเริ่มคิดจะตั้งชื่อบริษัท เริ่มต้นดีมีชัยไปกว่าครึ่งน่ะจริงเสมอ
1. ให้ความสำคัญกับชื่อ การ ตั้งชื่อบริษัทหรือสินค้านั้นเป็นเรื่องสำคัญ เพราะมันจะเป็นชื่อที่คุณจะต้องใช้ในการทำการตลาดด้วย ชื่อบริษัทมีผลต่อภาพลักษณ์และจุดยืนในตลาด ดังนั้นอย่าคิดว่าเป็นเรื่องเล่นๆ
2. หลีกเลี่ยงการเล่นคำในชื่อ การเล่นคำมากไปหรือใช้คำแผลงๆ อาจจะทำให้ลูกค้าจำยาก การใช้คำที่ผวนได้จะส่งผลต่อศีลธรรมอันดีงาม และอาจโดนวิพากษ์วิจารณ์ได้
3. ไม่จำเป็นต้องเป็น CP การ ใช้ตัวอักษรย่อชื่อบริษัทอาจจะทำให้การโฆษณาหรือสื่อสารง่ายขึ้น แต่นักธุรกิจขนาดเล็กคงไม่มีกำลังทั้งกายและเงินมากพอที่จะคอยบอกกลุ่มเป้า หมายว่าชื่อบริษัทนี้มีความหมายอย่างไร ดังนั้นให้ใช้ชื่อเต็มที่ไม่ต้องยาวนักจะดีกว่า
4. เน้นจุดเด่น คุณสามารถตั้งชื่อให้เกี่ยวข้องกับสินค้าหรือบริการของคุณที่คิดว่าเด่นเป็นจุดขายให้บริษัท คิดง่ายๆ ว่า ”บริษัทที่มีความเชี่ยวชาญในเรื่องเฉพาะเท่านั้นที่ลูกค้าต้องการ”
5. ห่างคุกไว้เป็นดี คุณไม่ควรใช้ชื่อให้ใกล้เคียงบริษัทที่มีชื่อเสียงอยู่แล้ว อีกทั้งชื่อที่เกี่ยวข้องกับราชวงศ์ด้วย ตัวอย่างเช่น กรณีของนาย Victor Moseley ที่เมืองอลิซาเบท รัฐเคนตักกี้ ประเทศสหรัฐอเมริกาได้ใช้ชื่อ Victor's Secret เป็นชื่อร้านขายของขวัญสำหรับผู้ใหญ่และชุดชั้นในสตรี เมื่อฝ่ายกฏหมายของ Victoria's Secret (ร้านชุดชั้นในสตรีชื่อดังของสหรัฐฯ) พบเข้าจึงได้ยื่นหนังสือฟ้องร้านของนายวิคเตอร์ในข้อหาละเมิดชื่อบริษัท แม้เขาจะรีบเปลี่ยนชื่อเป็น Victor's Little Secret ก็ยังโดน Victoria's Secret ฟ้องอยู่ดี
6. มองการณ์ไกล ธุรกิจขนาดเล็กหลายแห่งคิดว่าจะดำเนินธุรกิจแต่เพียงในอำเภอเมืองหรือ จังหวัดเท่านั้น แต่นี่ไม่ได้หมายความว่าชื่อบริษัทจะต้องจำกัดด้วยสถานที่ที่คุณตั้งบริษัท เท่านั้น เพราะคุณอาจขยายกิจการไปจังหวัดอื่น หรือทั่วประเทศเลยก็ได้
7. หลีกเลี่ยงชื่อตัวเอง เจ้าของบริษัทหลายท่านมักจะใช้ชื่อตัวเองตั้งเป็นชื่อร้าน ตัวอย่างคือร้านทองต่างๆ ที่แสนจะจำยากเย็น ข้อเสียคือหากคุณวางแผนจะขายกิจการในอนาคต ชื่อร้านที่เป็นตัวบุคคลเช่นนี้ไม่ดึงดูดใจผู้ซื้อเลยเมื่อเทียบกับบริษัท ที่สร้างชื่อจากสินค้าหรือบริการ
8. ให้คนอื่นช่วยอ่านออกเสียง หากอยากใช้ชื่อบริษัทที่แปลกๆ หรือใช้ภาษาท้องถิ่น ลองให้คนอื่นอ่านออกเสียงดูว่า เขาได้อ่านง่ายหรือออกเสียงถูกหรือไม่
9. ใช้ชื่อที่ขึ้นเว็บง่าย ผู้บริโภคนั้นโดนกรอกหูกรอกตาด้วยชื่อบริษัทร้านค้าทุกวันอยู่แล้ว งานของคุณคือต้องเลือกชื่อที่ผู้บริโภคจะจำได้ง่าย ชื่อเว็บไซท์ควรเป็นชื่อ เดียวกับบริษัทและพยายามอย่าขีดเส้นระหว่างคำ เพราะมันจำยาก
10. ตรวจดูว่าไม่ใช่ชื่อซ้ำ จะตั้งชื่อบริษัทให้ดีทั้งทีควรใช้เวลาสำรวจดูว่าไม่มีคนอื่นใช้ก่อนอยู่ แล้ว แต่ถ้าหากมีก็อาจะปรับชื่อให้คล้ายๆ กันหากว่าไม่ใช่ธุรกิจที่คล้ายกัน คุณสามารถค้นหาและจองชื่อนิติบุคคล ได้ที่เว็บไซท์ของกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์
www.dbd.go.th*************************************************************************************
หากคุณกำลังอยู่ในขั้นเตรียมการจะไปยื่นเรื่องขอจัดตั้งบริษัทกับ กรมธุรกิจการค้าแล้วล่ะก็ ทางเราอยากเสนอให้คุณกลับมาพิจารณาปัจจัยข้อหนึ่งซึ่งสำคัญไม่แพ้เอกสาร ต่างๆที่คุณกำลังง่วนจัดเตรียมอยู่ในตอนนี้ เพราะปัจจัยข้อนี้ไม่เพียงส่งผลในเรื่องการเริ่มต้นประกอบการเท่านั้น แต่มันยังส่งผลไปตลอดการดำเนินการของบริษัทคุณอีกด้วย ปัจจัยที่ว่าก็คือ ‘ชื่อของบริษัท’ นั่นเอง
ชื่อบริษัทก็ไม่ต่างจากชื่อที่พ่อและแม่ตั้งให้คุณ เพราะมันจะติดตัวบริษัทของคุณไปชั่วชีวิต ดังนั้นการพิจารณาชื่อที่ดีและเหมาะสมจึงเป็นสิ่งที่คุณไม่ควรมองข้าม มิฉะนั้นคุณก็อาจจะต้องเปลี่ยนชื่อให้บริษัทเสียใหม่เช่นเดียวกับที่หลายๆคน จำต้องเปลี่ยนชื่อของตนเพราะมาพบอักษรที่ไม่เป็นมงคลจากชื่อที่พ่อแม่ตั้ง ให้ในภายหลัง ซึ่งข้อเสนอแนะในการตั้งชื่อบริษัทมีดังนี้
ตั้งชื่อที่มีความหมายดี ไม่ผิดศีลธรรม
ชื่อของบริษัทควรมีความหมายในทางที่ดีเช่นเดียวกับชื่อของคน เพราะในประเทศที่ยังยึดถือเรื่องโชคลางอย่างประเทศของเรานั้นให้ความสำคัญ กับเรื่องนี้มาก การตั้งชื่อดีจึงอาจสร้างสิริมงคลให้กับบริษัทของคุณก็ได้และถึงแม้คุณจะไม่ ได้เคร่งครัดในเรื่องดังกล่าว แต่อย่าลืมว่าอย่างน้อยลูกค้าของคุณส่วนใหญ่ก็น่าจะเป็นคนในประเทศซึ่งอาจ ยังยึดถือเรื่องโชคลาง หากชื่อบริษัทของคุณฟังดูไม่เข้าหูหรือไม่เป็นสิริมงคลลูกค้าก็อาจใช้มันใน การตัดตัวเลือกระหว่างคุณกับบริษัทคู่แข่งก็ได้
นอกจากนี้การตั้งชื่อที่ผิดศีลธรรม ใช้คำผวน หรือเล่นคำ อาจก่อให้เกิดภาพลักษณ์ที่ไม่ดีในด้านการประชาสัมพันธ์ ซึ่งจริงๆแล้วตอนที่คุณไปแจ้งที่กรมธุรกิจการค้านั้น เขาก็จะมีการตรวจให้ และถ้าเป็นชื่อที่ไม่ผ่านเกณฑ์คุณก็จะต้องเสียเวลากลับมาหาชื่อใหม่และยื่น เรื่องใหม่อีกอยู่ดี ทำให้การจัดตั้งบริษัทล่าช้าออกไปอีก
บ่งบอกลักษณะกิจการแต่ไม่ควรเฉพาะเจาะจงจนเกินไป
ไม่ควรระบุชื่อเจาะจงจนเกินไปเพราะอาจส่งผลต่อการขยายโอกาสในอนาคตได้
การตั้งชื่อบริษัทของคุณควรบ่งบอกถึงลักษณะการประกอบการ เพราะจะทำให้ลูกค้ารู้ว่าคุณประกอบธุรกิจอะไร แต่ทั้งนี้ไม่ควรระบุเจาะจงจน เกินไปเพราะอาจส่งผลต่อการขยายโอกาสในอนาคตในกรณีที่คุณต้องการทำผลิตภัณฑ์ ตัวใหม่ขึ้นมา ยกตัวอย่างร้านอาหารฟาสต์ฟู้ดอย่าง KFC ซึ่งเปลี่ยนชื่อเป็นตัวย่อมาจากชื่อเต็มว่า Kentucky Fried Chicken เพราะถ้าขืนยังใช้ชื่อเดิมอยู่ ผู้พัน Kentucky อาจขายได้เพียงไก่ทอดตามชื่อบริษัทเท่านั้น
เข้าใจง่าย ออกเสียงง่าย
ชื่อบริษัทควรเป็นชื่อที่เข้าใจง่ายและออกเสียงง่ายอีกด้วย เพราะมันจะทำให้ลูกค้าจำชื่อของบริษัทคุณได้ดีขึ้น อย่าลืมว่าการค้า ‘แบบปากต่อปาก’ ยังมีผลมากในระบบเศรษฐกิจไม่ว่ายุคไหนสมัยไหน หากผลิตภัณฑ์และของคุณดีจริงจนลูกค้าอยากแนะนำให้คนรู้จักใช้บ้าง แต่ชี่อบริษัทของคุณจำยากหรือออกเสียงยากเกินไปทำให้เขาไม่สามารถจำชื่อไป บอกคนอื่นต่อได้ คุณก็อาจพลาดเป้าหมายในการได้ลูกค้ารายใหม่ไปโดยไม่ได้ตั้งใจ
ทั้งนี้ในกรณีที่ตั้งบริษัทใหม่ควรหลีกเลี่ยงการใช้อักษรย่อ เพราะจะทำให้ลูกค้าไม่รู้ว่าสินค้าและบริการของเราเกี่ยวกับอะไร
เป็นชื่อที่โดดเด่น
แม้ชื่อที่คุณตั้งจะต้องเป็นชื่อที่บ่งบอกถึงลักษณะการประกอบการของ บริษัท แต่อย่าลืมว่าคุณไม่ได้เป็นคนเดียวที่ประกอบกิจการดังกล่าว ยังมีคู่แข่งอีกหลายรายที่ทำธุรกิจแบบเดียวกับคุณและส่วนใหญ่เวลาตั้งชื่อก็ จะตั้งเหมือนๆกัน เช่น ถ้าเป็นร้านซ่อมเครื่องไฟฟ้าก็มักจะมีคำว่า ‘อิเล็กทรอนิกส์’ ในชื่อเกือบทุกร้าน ทำให้ลูกค้าจะแยกไม่ค่อยออกเพราะชื่อเหมือนๆกันหมด ส่งผลให้ถ้าชื่อของบริษัทของคุณไม่มีความโดดเด่นและไม่เป็นที่นึกถึงของ ลูกค้า เรียกได้ว่าแพ้คู่แข่งตั้งแต่ลูกค้ายังไม่ทันเห็นสินค้าเลยก็ว่าได้
ตรวจสอบให้ดีว่าไม่เป็นชื่อที่ซ้ำหรือใกล้เคียงกับบริษัทที่มีอยู่แล้ว
ชื่อคนซ้ำกันอาจไม่เป็นปัญหา แต่ชื่อบริษัทซ้ำกันนั้นเป็นปัญหาอย่างแน่นอน เพราะคุณอาจยื่นเรื่องกับกรมธุรกิจการค้าไม่ผ่านตั้งแต่ในเบื้องต้นจนต้อง เสียเวลายื่นเรื่องใหม่อีกรอบ หรือถ้าคุณยื่นเรื่องผ่านเพราะไม่ได้ใช้ชื่อโดยตรงแต่จงใจใช้ชื่อใกล้เคียง กับบริษัทอื่นที่ประกอบธุรกิจลักษณะเดียวกับคุณมานานแล้วเพื่อหวังผลให้เกิด ความเข้าใจผิดจากลูกค้า คุณก็อาจถูกฟ้องร้องจากบริษัทที่คุณจงใจเลียนแบบได้เช่นกัน
ไม่ควรตั้งชื่อบริษัทตามพื้นที่หรือตามตัวผลิตภัณฑ์ที่ขายอย่างเฉพาะเจาะจง
การตั้งชื่อตามที่ตั้งอาจเป็นประโยชน์สำหรับคุณในการบอกที่ตั้งก็จริง แต่ในขณะเดียวกันก็จะกลายเป็นการจำกัดพื้นที่การทำธุรกิจของคุณไปด้วย เพื่อหลักเลี่ยงข้อจำกัดดังกล่าวคุณควรตั้งชื่อโดยคำนึงถึงอนาคตว่าวันหนึ่ง กิจการของคุณอาจจะไม่ได้จำกัดอยู่เพียงในพื้นที่หนึ่งๆ แต่อาจขยายไปไกลหรือไปในต่างที่ต่างแดนได้ ดังนั้นคุณควรเลือกใช้ชื่อที่มีความเป็นสากลล่วงหน้าไว้ก่อน ยกตัวอย่างบริษัท Minnesota Manufacturing and Mining ที่เปลี่ยนชื่อเป็น 3M เพื่อให้ขายได้ทั่วโลกอย่างในปัจจุบัน
หลีกเลี่ยงการใช้ชื่อหรือนามสกุลของตนเอง
เจ้าของกิจการส่วนใหญ่มักตัดปัญหาการตั้งชื่อกิจการมาใช้ชื่อและนามสกุล ของตนเองไปเลย เช่น กิจการร้านทองที่ขึ้นต้นด้วย ‘ห้างทอง’ และตามด้วยชื่อ ‘แม่’ต่างๆ ซึ่งนอกจากจะคล้ายกันมากจนจดจำและแยกแยะได้ยากแล้ว ชื่อและนามสกุลของคนทั่วไปยังไม่เป็นที่โดดเด่น ติดหู และติดปากคนมากเท่าที่ควรเมื่อเทียบกับการใช้ชื่อสินค้าและบริการแทน
ใช้ชื่อที่สามารถทำตัวอักษร หรือโลโก้ที่สวยงามได้
ทำโลโก้บริษัทให้สวยงามและดึงดูดความสนใจลูกค้า
ชื่อที่คุณเลือกมานั้นนอกจากจะเป็นชื่อที่ดีและเหมาะสมแล้ว ยังต้องสามารถจัดทำให้อยู่ในรูปแบบอักษรที่สวยงามและถ้าสามารถประกอบกับโล โก้ของบริษัทได้ด้วยจะยิ่งดีมาก เพราะมันเป็นเสมือนสิ่งแรกที่จะดึงดูดความสนใจของลูกค้า ดังนั้นเมื่อได้ชื่อบริษัทมาคุณก็ควรลองปรับให้เป็นหลายๆแบบเท่าที่จะคิดออก เช่น ลองเปลี่ยนฟอนท์ ขนาด สี หรือลองหาผู้ออกแบบที่มีฝีมือมาช่วยออกแบบตกแต่งก็ได้เพื่อให้ได้รูปแบบที่ คุณคิดว่าเข้าท่าและน่าจะผู้สะดุดตาผู้คนที่สุด แต่ทั้งนี้คำว่า ‘สะดุดตา’ ในบางทีถ้าพลาดก็อาจกลายเป็น ‘ขัดตา’ ได้ ดังนั้นคุณจึงจำเป็นต้องพิจารณาอย่างรอบคอบก่อนตัดสินใจ
นอกจากชื่อบริษัทควรจะสัมพันธ์กับโลโก้แล้ว ก็ควรจะเป็นชื่อที่สามารถเอามาจัดทำเป็นเว็บไซต์ได้ เพราะในยุคที่อินเตอร์เน็ทเข้ามามีบทบาทในเรื่องของการสื่อสารเช่นทุกวันนี้ บริษัทของคุณอาจจำเป็นที่จะต้องมีเว็บไซต์เป็นของตนเองเพื่อประโยชน์ในด้าน การโฆษณาประชาสัมพันธ์
เมื่อได้ชื่อที่ต้องการแล้ว ควรสอบถามความเห็นของผู้อื่น
คุณควรให้ผู้อื่น เช่น เพื่อนร่วมงาน คนในครอบครัว หรือคนรู้จักในวงการธุรกิจที่พอจะมีประสบการณ์ ได้ทดลองพิจารณาชื่อบริษัทของคุณดู เช่น ให้เขาแสดงความคิดเห็น ทดลองอ่านออกเสียง หรือพิจารณาแบบอักษรดู เสมือนว่าพวกเขาเป็นลูกค้าจริงๆ ซึ่งข้อดีก็คือบางทีคนเหล่านี้อาจมองเห็นปัญหาที่คุณมองข้ามหรือนึกไม่ถึงก็ ได้ ทำให้คุณแก้ไขปัญหาได้ทันก่อนที่จะสายเกินไป
การตั้งชื่อบริษัทที่ผิดพลาดอาจส่งผลเสียต่อสินค้าและบริการของคุณใน ระยะยาว ซึ่งหากมันกลายเป็นอุปสรรคกับกิจการ คุณก็ควรลดทิฐิและยอมแก้ปัญหาดังกล่าวโดยใช้วิธีเปลี่ยนชื่อบริษัทเสียใหม่ อย่าคิดว่าเรื่องชื่อเป็นแค่ปัญหาเล็กๆ เพราะบางทีปัญหาเล็กๆก็อาจเป็นบ่อเกิดของปัญหาที่ใหญ่กว่าดังที่ได้ยก ตัวอย่างไปในข้างต้นก็ได้
*********************************************************************************