Author Topic: การล้างแอร์ควรล้างกี่เดือนครั้ง  (Read 6669 times)

ontcftqvx

  • สมาชิกใหม่
  • *
  • Posts: 0
    • View Profile
การล้างแอร์ควรล้างกี่เดือนครั้ง

หลายท่านอาจจะเกิดคำถามว่าในการ ล้างแอร์บ้านควรจะล้างกี่เดือนครั้งดี เพราะเห็นช่างส่วนใหญ่ก็บอกให้ล้างทุกๆ 6 เดือน แต่บางทีพึ่งล้างไม่กี่เดือนก็เริ่มไม่ค่อยเย็นแล้ว ซื่งปัจจัยในการล้างแอร์บ่อยครั้งแค่ไหนนั้น มีดังนี้

    * ปัจจัยหนึ่งก็คือเราเปิดใช้งานแอร์ตัวนั้นบ่อยครั้งและนานแค่ไหนยิ่ง เปิดบ่อยๆหรือเปิดนานๆ ก็ยิ่งต้องล้างแอร์บ่อยครั้งขึ้นเท่านั้น เพราะขณะทีแอร์กำลังทำงาน จะมีการดูดอากาศเข้าไปภายในตัวเครื่องเพื่อหมุนเวียนแล้วพ่นลมเย็นออกมา ทำให้มีฝุ่นละอองและสิ่งสกปรกเข้าไป แล้วไปหมักหมมอยู่ภายในตัวเครื่อง และจะทำให้ระบายความเย็นได้ไม่ดีเท่าที่ควร ทำให้เเอร์ทำงานหนักและกินไฟเพิ่มขึ้น
    * อีกปัจจัยหนึ่งก็คือตำแหน่งที่อยู่อาศัยของท่าน ถ้าหากอยู่ติดถนน หรืออยู่ในบริเวณที่มีฝุ่นละอองมาก เช่น บริเวณที่กำลังมีการก่อสร้าง เป็นต้น ก็จำเป็นจะต้องล้างแอร์บ่อยครั้งขึ้นตามปริมาณฝุ่นละออง (สังเกตง่ายถ้าด้านหลังของคอยล์ร้อนเริ่มมีฝุ่นจับมากก็ควรล้างทันที อยู่ปล่อยให้อุดตันจนอากาศไหลเวียนได้ไม่สะดวก)




ข้อแนะนำ : ควรล้างทำความสะอาดแผ่นกรองอากาศของแอร์ด้วยน้ำเปล่าทุกๆอาทิตย์ เพื่อลดการอุดตันของแผ่นกรอง(ช่วยประหยัดไฟได้อีกนิด)
ข้อ สังเกต : แอร์จะทำความเย็นได้ดีขึ้น 10-15 เปอร์เซนต์ และประหยัดไฟขึ้นอย่างน้อย 10 เปอร์เซ็นต์ หลังจากการล้างแอร์ อีกทั้งยังช่วยลดสิ่งสกปรก เชื่อโรคที่สะสม อยู่ภายในเครื่องปรับอากาศทำให้เป็นผลดีกับสุขภาพของท่านด้วย

ว่าด้วยคำถามต้องเติมน้ำยาแอร์บ้านบ่อยไหม



ลูกค้า หลายท่านชอบถามเวลาจะล้างแอร์ว่า ต้องเติมน้ำยาประมาณเท่าไหร่ จะต้องเสียกี่บาท ซื่งตรงนี้มันระบุแน่ชัดไม่แน่ชัดหรอกครับว่าต้องเติมน้ำยาแอร์เท่าไหร่ เพราะแอร์แต่ละเครื่องมันจะมีอัตราการรั่วซึมของน้ำยาแอร์ไม่เท่ากัน ซื่งส่วนใหญ่แอร์ที่พึ่งติดตั้งไปไม่เกิน 1 ปี ไม่จำเป็นต้องเติมน้ำยาแอร์(ถ้าเติมก็ไม่เกิน10ปอนด์/ต่อตารางนิ้ว)แต่ถ้า เช็คแล้วน้ำยาขาดไปค่อนข้างเยอะ แสดงว่ามีปัญหาจากการติดตั้งแล้วครับ

ส่วน แอร์เก่าหลังจาก 1 ปีเป็นต้นไปนั้นจะเติมน้ำยาแอร์บ่อยแค่ไหนก็ต้องดูว่ามีจุดรั่วซึมของน้ำยา มากแค่ไหน(ซื่งดูด้วยตาเปล่ายากมาก ถ้าไม่รั่วออกมามากจริงๆ) ซื่งบริเวณที่มักจะมีน้ำยารั่วซึมคือจุดเชื่อมต่อต่างๆ หรือท่อทองแดงอาจเสียดสีกันจนน้ำยาแอร์สามารถรั่วซึมออกมาก็เป็นได้ ซื่งถ้าแอร์ของท่านมีจุดรั่วมากก็ย่อมต้องเติมมากและต้องเติมบ่อยขึ้น ครับ(อาการน้ำยาพร่องแต่ไม่ถึงกับรั่วนี่จะหาจุดที่รั่วซึมยากมากเลยครับ)

โดยอัตราน้ำยาในระดับปกติของแอร์บ้านทั่วไป จะต้องอยู่ที่ 70-80 ปอนด์/ตารางนิ้ว หรือแล้วแต่ทางผู้ผลิตจะกำหนดมาในแต่ละรุ่นครับ

เราควรล้างแอร์บ้านบ่อยครั้งแค่ไหน



มี ลูกค้าหลายท่านถามผมว่าควรล้างแอร์บ้านบ่อยครั้งแค่ไหน จึงขอเขียนตอบลงในบทความนี้เลยละกันนะครับ โดยส่วนใหญ่แล้วจะมีคนบอกว่าต้องล้างแอร์6 เดือน/ครั้ง ซื่งตรงนี้คือการประมาณเท่านั้นครับ การที่เราต้องล้างแอร์บ่อยครั้งแค่ไหนมันไม่ตายตัวหรอกครับมันแล้วแต่ปัจจัย หลายๆอย่างๆด้วย เช่น

    * บริเวณที่เราอาศัยอยู่นั้นอยู่บริเวณไหน ถ้าอยู่ติดถนนก็จำเป็นต้องล้างบ่อยขึ้นโดยสังเกตได้จากแผงคอยล์ร้อนว่าเริ่ม มีการอุดตันของสิ่งสกปรกรึยัง
    * และถ้าหากไม่อยู่ติดถนนแต่ใกล้เคียงกับบ้านเรามีการก่อสร้างก็จะทำให้มีสิ่งสกปรกอุดตันเร็วเช่นกัน
    * ภายในห้องมีการใช้แป้งเยอะหรือไม่ หรือที่นอนเป็นฝุ่นเยอะหรือไม่ ตรงนี้ก็เป็นอีกสาเหตุที่ทำให้ต้องล้างแอร์เร็วขึ้นนะครับ
    * อีกปัจจัยก็คือเราใช้แอร์ตัวนี้บ่อยครั้งแค่ไหน ถ้าเกิดเปิดใช้ทุกวันก็จะทำให้สิ่งสกปรกอุดตันได้เร็วขึ้น เพราะแอร์มีการดูดอากาศที่มีฝุ่นละอองเข้าไปในตัวแอร์อยู่ตลอดเวลา

ซื่ง จากสาเหตุข้างต้นแอร์บางเครื่องจึงควรล้างอย่างน้อย 3 เดือน/ครั้ง เพื่อยืดอายุการใช้งาน ประหยัดไฟ และเพื่อสุขภาพของเราครับ และอีกวิธีนึงที่สามารถช่วยได้เยอะเลยก็คือหมั่นล้างทำความสะอาดแผ่นกรองทุก อาทิตย์ด้วยตนเองครับ

วิธีล้างแอร์บ้านแบบติดผนัง(ล้างใหญ่)

เมื่อ แอร์เริ่มใช้งานไปได้ประมาณ 6 เดือนแล้วเราควรทำการฉีดล้างตัวแอร์บ้างนะครับ เพื่อความสะอาดและเพื่อความประหยัดไฟ (อาจจะเร็วกว่า 6 เดือน ในกรณีที่บ้านอยู่ติดถนนหรือที่ที่มีฝุ่นละอองเยอะ)

ส่วนวิธีการล้างแอร์ติดผนังมีดังนี้ครับ



1. ให้ทำการเปิดหน้ากากออกมาโดยใช้มือทั้งสองข้าง (ที่ดึงจะอยู่ริมซ้ายและขวา) เพื่อดึงแผ่นกรองอากาศออกมาก่อน

2. ขันสกรูที่ยึดตัวหน้ากากแอร์ไว้ (แต่ละยี่ห้อจะมีจุดยึดไม่เหมือนกัน ให้สังเกตดีๆ)

3. ค่อยๆดึงหน้ากากแอร์แอร์ออกมา บางยี่ห้อสามารถดึงโดยจับด้านบนหน้ากากแอร์ บางยี่ห้อสามารถใช้มือสองข้างจับริมหน้ากากแอร์แล้วดึงออกได้เลย (ให้สังเกตจุดล็อกเอา)

4. ขันสกรูที่ล็อคถาดน้ำทิ้งออก แล้วค่อยขยับปล็ดล็อคถาดน้ำทิ้ง จากนั้นก็ดึงท่อทิ้งที่อยู่กับถาดน้ำทิ้งออก




5. ใช้ผ้าใบพลาสติกคลุมแอร์ไว้ (คลุมแบบไหนก็ได้ไม่ให้น้ำหยด) แล้วทำการฉีดล้างด้วยปั๊มน้ำแรงดันสูง(ก่อนฉีดล้างควรสับเบรกเกอรร์ลง และใช้ผ้าคลุมแผงควบคุมด้านขวามือไว้)



6. ใช้โบวเวอร์เป่าแผงคอยล์และแผงไฟให้แห้ง แล้วใช้ผ้าเช็ดให้สะอาด

7. ประกอบแอร์กลับเข้าที่ให้เรียบร้อยโดยเริ่มจากใส่ถาดน้ำทิ้งก่อน



8. ทำการฉีดล้างคอยล์ร้อน(คอนเดนซิ่งยูนิต) ให้สะอาดด้วยปั๊มน้ำแรงดันสูง โดยไม่ต้องถอดชิ้นส่วน

9. จากนั้นก็สับเบรกเกอร์ขึ้น แล้วเปิดแอร์เพื่อทดสอบการทำงาน




เครดิต airthai