Author Topic: เกริ่นนำวิธีการเดินทางในญี่ปุ่นแถบ Kansai  (Read 11238 times)

ontcftqvx

  • สมาชิกใหม่
  • *
  • Posts: 0
    • View Profile
ที่ตั้งชื่อซะโอเว่อร์ ประมาณนี้ ก็เพราะว่า นี่เป็นครั้งที่สองที่มาเที่ยวญี่ปุ่นกับคุณสามีสองต่อสองแบบตั้งใจมา ฮันนีมูนสวืทหวีดวิ๊ว แต่กลับกลายเป็นว่า ต้องเจอกับอุปสรรคมากมาย ไม่ว่าจะเป็น กระเป๋าไปหลงตกค้างอยู่ที่ฮ่องกงตอน transit หรือว่าจะ เป็น อุณหภูมิที่เหวี่ยงขึ้นลงยังกับรถไฟเหาะตีลังกา ประมาณ วันหนึ่ง 18 อีกวันเหลือ 8 องศา แถมบางวันฝนก็ยังจะตกลงมาอีกทำให้การท่องเที่ยว กร่อยไปถนัดตา
พร้อมกับข่าวการเมืองจากประเทศไทยที่ปรากฏบนหน้าจอทีวี ที่ญี่ปุ่นทุกว๊าน ทุกวัน ทำเอาละเหี่ยใจไปไม่ใช่น้อย

บางครั้งไปถึง สถานที่หนึ่งปรากฏว่าดันปิดซะนี่ ทั้งๆที่ check ในnet มาอย่างดีแล้ว
แต่ เอาเถอะ ถึงจะมีอุปสรรคเยอะแยะแค่ไหน ก็ไม่เป็นปัญหาสำหรับเราสอง ....555 คนจะเที่ยวซะอย่างเอาช้างมาฉุดก็ไม่อยู่

ทริ ปการเที่ยวครั้งนี้จะ เน้นการเที่ยวที่ส่วนใต้ของเกาะ Honshu (แผ่นดินใหญ่ของญี่ปุ่นนั่นแหละ) เพื่อความเข้าใจขออธิบายคร่าวๆเกี่ยวกับเกาะ Honshu หรือตัว main land ของญี่ปุ่นซะก่อน





ตัว เกาะจะแบ่งออกเป็นแถบต่างๆได้แก่ Chugoku, Kansai, Chubu, Kanto และ Tohoku ส่วนที่เราจะไปเที่ยวในครั้งนี้ก็คือ Kansai ซึ่งประกอบด้วย Hyogo, Kyoto, Mie, Nara, Osaka, Shiga และ Wakayama

สี เข้มคือ ส่วน Kansai คะ(Credit ภาพ wikipedia)





เนื่อง จากว่าฮันนีมูนทริปครั้งแรก เราเที่ยว Nara, Osaka กันซะปรุหมดแล้ว แถมยังเที่ยว Kyoto กันไปนิดๆหน่อยๆ ครั้ง นี้ก็เลยจะขอลองดี เที่ยวบริเวณที่คนไทยไม่ค่อยได้ไปเที่ยว ได้แก่ Hyogo และ Kii
โดย ตั้งใจจะเริ่มเที่ยวจากที่ Wakayama แล้วเลาะลงใต้ไปเรื่อยๆ ผ่าน shirahama ไปยัง Katsuura –Nachi และ Shingu ก่อนย้อนกลับมายัง Wakayama แล้วย้ายไปพักในตัวเมืองเขตความเจริญของkansai คือ Osaka โดยยึดเอา Osaka เป็นที่พำนักของเรา ก่อนไปเที่ยวแถว hyogo ได้แก่ Kobe และ Takarazuka

(แอบเสียดายนิดๆ เพราะวางแผนว่าจะไปเที่ยวที่ Himeji ด้วย แต่ดันปิดซ่อมปราสาทซะก่อนก็เลยต้องยกเลิกไป)

ภาพส่วนสีแดงๆคือ ส่วนที่เรียกว่า Kii หรือ ส่วนที่ประกอบด้วย Wakayama, Shirahama, Kushimoto, Taiji, Nachi, Shingu คะ





การเดินทางระหว่างจังหวัดบริเวณ kansai และสารพัดบัตรลด

เนื่อง จากการเดินทางแถว kansai นั้น ถ้าเป็นส่วนบนๆ ได้แก่พวก Kyoto-Nara-Osaka-Kobe คนส่วนมากมักจะไม่มีปัญหาในการเดินทางกันอยู่แล้ว เพราะว่ามีรถไฟหลายสาย หรือรถบัสหลายสายที่วิ่งอยู่ระหว่างเมือง

แต่ สำหรับผู้ที่ต้องการจะ เที่ยวใต้ลงมา โดยเฉพาะจาก Wakayama นั้นจะลำบากนิดหน่อย เพราะมีแต่รถไฟของ JR เท่านั้น แถมยังไม่ค่อยมี promotion อะไรออกมาเป็นภาษาอังกฤษให้อ่านซะด้วย

แต่ไม่ต้องห่วง!! ไม่ว่าจะยากแค่ไหน หรืออ่านภาษาญี่ปุ่นไม่ออก เราก็จะพยายามสืบเสาะมาเพื่อให้การเดินทางของเราประหยัดที่สุด (โอ้เย่!)




ขบวนรถไฟทำไมมีหลายแบบจัง??

สำหรับ รถไฟใน ญี่ปุ่น นอกจากจะมีชื่อสายต่างๆเช่น hanshin line, hankyu line, JR line แล้ว แต่ละเส้น ก็จะมีรถไฟวิ่งผ่านโดยชนิดของรถไฟก็แตกต่างกันออกไปอีกด้วย

โดย คร่าวๆ ก็จะมี Shinkansen, Limited Express, Semi-Express,  Express, Local  โดยเรียงตามความเร็ว ยิ่งเร็วก็จะจอดน้อยสถานีลง สำหรับ local ก็คือ จอดทุกสถานี 

โดยทั่วไปแล้ว ค่ารถไฟจะแยกออกเป็นสองส่วนด้วยกัน ได้แก่ Fare (ค่ารถ) กับ Seat Fee (ค่าที่นั่ง) โดย ถ้าเป็นสาย local จะมีแค่ Fare เท่านั้นไม่มี seat fee ส่วน รถสายอื่นๆ เช่น Express ขึ้นไป มักจะมี seat fee ร่วมด้วย

อย่างในรูปนี่คือตั๋วสองใบสำหรับการขึ้น รถไฟครั้งเดียว





นี่คือค่า Fare Ticket ที่ไม่ว่าจะนั่ง Local ไปยัน shinkansen ยังไงก็ต้องจ่าย





ส่วนนี่คือค่า Seat Fee ซึ่งถ้าเป็น สาย Local ไม่ต้องจ่าย
แต่ถ้าเป็น Limitid express อันนี้ขึ้นอยู่กับแต่ละบริษัท และบางเส้นทาง
บางเส้นทาง ถึงแม้ว่าจะเป็น Non- reserved seat ก็ยังต้องจ่ายอยู่ดี





รถสาย Express หรือ Limited Express จะมีที่นั่งสองแบบคือ แบบ Reserved (ต้องจอง) และ Non-Reserved (ไม่ต้องจอง)
โดย ถ้านั่งแบบ Non-reserved ค่า Seat Fee ก็จะมีตั้งแต่ 0 เยน ไปจนถึง 1000 กว่าเยน และต้องจ่ายค่า Fare หรือค่ารถต่างหาก
แต่ ถ้านั่งแบบ reserved ก็ต้องจ่ายค่าจองที่นั่งเพิ่มด้วย (ยกเว้นถ้าซื้อบัตร JR pass จองได้ฟรีไม่ต้องจ่ายค่า reserved seat)

ถามว่า จำเป็นต้องจองไหม?? คำตอบก็คือ ถ้าคุณนั่งรถไฟตั้งแต่ต้นสาย ก็ไม่ต้องจอง
แต่ ถ้าคุณขึ้นกลางๆสาย แล้วไม่ได้จอง คุณอาจจะต้องยืนบนรถไฟไปจนถึงปลายทาง
ค่า จองที่นั่งก็ใช่ว่าจะถูกอยู่เพราะตกตั้งแต่ 1000-2000 เยน ต่อที่เลยทีเดียว สำหรับตารางการเดินรถ เวลา และค่าตั๋ว สามารถดูได้ที่ http://www.hyperdia.com/en/





เพื่อไม่ให้งง จะขออธิบายเรื่องบริษัทของรถไฟคร่าวๆดังนี้

โดยทั่วไปแล้วบริษัท รถไฟยักษ์ใหญ่ที่ทำการวิ่งระหว่างจังหวัดต่างๆภายใน kansai ก็คือ บริษัทของ JR (Japan Raiway)
หรือที่คนไทยหลายๆคนรู้จักกันดีเวลาต้องการเดินทาง รถไฟชินกันเซนในราคาประหยัดก็คือซื้อ JR Pass

แต่ นอกจากนั้น ที่นี่ก็ยังมีบริษัทอื่นๆที่ใหญ่พอๆกันแถมบริการก็เร็วแทบจะไม่แตกต่างกัน ได้แก่บริษัท Hanshin และ Hankyu ซึ่งมีรถวิ่งทั้งภายในตัวเมือง และระหว่างเมืองอีกด้วย

สำหรับคนที่ไม่เคยเที่ยวญี่ปุ่นอาจจะงุนงง เล็กน้อย เพราะว่าบัตรลดของบางบริษัทเช่น JR Pass ก็ไม่สามารถใช้ได้กับบางเส้นทางเช่น subway ใน Osaka บางเส้นทาง

ขณะ ที่บัตร Surutto Kansai  ก็ไม่สามารถใช้นั่งรถไฟ JR ได้ แต่ก็จะดีกว่าคือสามารถใช้เดินทางภายในตัวเมืองได้คล่องกว่า แถมยังครอบคลุมบรรดา รถบัสต่างๆในตัวเมืองอีกด้วย

บัตรลดต่างๆซึ่ง เป็น promotion ของบริษัททั้งสองค่ายยักษ์ก็มีออกมาแข่งกัน ซึ่งบางอย่างก็มักจะถาวรเช่น พวก Kansai Thru Pass หรือ JR Pass ส่วน บางครั้งก็จะมีเปลี่ยนแปลงเล็กๆน้อยๆ ตามเทศกาล เช่น One day pass หรือ ว่า Panda pass เป็นต้น

เพื่อไม่ให้งงจะขออธิบายโดยแยกบัตรลดเป็น บริษัทๆ และเป็นบัตรลดที่ใช้ในการท่องเที่ยว “ระหว่าง” จังหวัด ไปก่อนแล้วกัน ส่วนการเที่ยว “ภายใน” จังหวัดนั้นๆ จะขอยกไปกล่าวถึงในรายละเอียดของการท่องเที่ยวแต่ละวันเป็นๆวันๆไปนะ




บัตรลดเครือ JR เพื่อใช้ในการเดินทางระหว่างจังหวัดใน kansai area

1. JR Pass เป็นบัตรที่ใช้เดินทางระหว่างจังหวัดทั่วทั้งประเทศญี่ปุ่น
ระยะการใช้     : 7 วัน,  14 วัน และ 21 วัน ใช้แยกวันไม่ได้

ราคาตั๋ว          : 37800 yen, 61,200 yen และ 79,600 yen ตามลำดับ

ซื้อได้ที่          : ประเทศไทยตามบริษัททัวร์ต่างๆ ต้องไปแลกเอา บัตรจริงที่สนามบินอีกที

ขบวน รถไฟที่ครอบคลุม     :  รถไฟของ JR ทั้งหมด ได้แก่shinkansen (ยกเว้นรถ NOZOMI), limited express, Express, Rapid และ Local โดยไม่ต้องเสียค่า reserve ที่นั่ง

สายรถไฟที่ครอบคลุม       : ทุกสายที่เป็นของ JR

รถ บัสที่ครอบคลุม             : JR Hokkaido bus, JR bus Tohoku, JR Bus Kanto, JR Tokai bus, West Japan JR bus, Chugoku JR bus, JR shikoku bus, JR Kyushu bus, JR Highway bus ต่างๆ ได้แก่ Sapporo-Otaru, Morioka-Hirosaki, Tokyo-Nagoya, Kyoto-Osaka, Tsukuba center, Nagoya-kyoto, Osaka-Tsuyama

คำแนะนำ             : ถ้าคิดจะเที่ยวแค่ใน Kansai ไม่ได้ไปเที่ยวถึง kanto หรือ Hokkaido ละก็ ไม่ต้องซื้อหรอก ไม่คุ้มเท่าไหร่ ซื้อพวก JR West หรือว่า Kansai Thru Pass จะดีกว่า แถมครอบคลุมพวก subway ในเมืองมากกว่า เพราะ JR ไม่ ครอบคลุม subway หลายสาย มีแต่รถไฟระหว่างเมืองสายหลักๆเท่านั้น

Website              : http://www.japanrailpass.net/eng/en001.html





2. JR West Kansai Area Pass
ระยะการ ใช้ /ราคา    : 1 วัน 2000 เยน   , 2 วัน 4000 เยน,   3วัน 5000 เยน   และ 4 วัน 6000 เยน (ใช้แยกวันไม่ได้)

ซื้อได้ที่   : ประเทศไทย หรือสนามบิน Kansai

ขบวนรถไฟที่ครอบคลุม : 
Local JR Train       Rapid         Limited Express เฉพาะ Haruka แบบ Non-reserved seat (ถ้าจะนั่งคันอื่น จะต้องซื้อตั๋วค่าที่นั่งเพิ่มเองต่างหาก)

สาย รถไฟที่ครอบคลุม : 
Tokaido - Sanyo Main Line (Yamashina - Himeji),
Osaka Loop Line,    JR Tozai Line,     Sakurajima Line,
Katamachi Line,      Nara Line,
San-in Main Line (Kyoto - Hozukyo),
Kansai Main Line (JR Namba - Kizu),
Sakurai Line, Wakayama Line (Oji - Takada),   
Hanwa Line (Tennoji - Hineno),
Kansai Airport Line Osaka Higashi Line

รถบัสที่ครอบคลุม : ไม่มี

Website : http://www.westjr.co.jp/english/travel/jrp/index.html

คำ แนะนำส่วนตัว เหมือนว่าจะประหยัดและดี แต่พอคำนวนแล้ว ถ้ามีเวลาเหลือ นั่งของบริษัท Hankyu จะประหยัดไปได้เยอะมาก เกือบ 500-1000 เยนต่อเที่ยว ตั๋วก็ราคาไม่แพง เสียแค่การเดินทางอาจจะนานขึ้นประมาณ 10 นาที -20 นาทีเท่านั้น / ดูแล้วจะคุ้มแค่ถ้าคิดจะเดินทางจาก Kansai airport ไป Kyoto โดย Haruka  เท่านั้นแหละ!





3. JR west Sanyo Area Pass

ระยะ การใช้ /ราคา:  4 วัน 20,000 เยน,     8 วัน 30,000 เยน

ซื้อได้ที่ : ประเทศไทย หรือสนามบิน Kansai

ขบวนรถไฟที่ครอบคลุม : 
Haruka,
Shinkansen (เฉพาะจาก Hakata-Kokura-Hiroshima-Okayama- Himeji-Shin Kobe-Shin osaka),
Local train, Express train, Limited Express train

สาย รถไฟที่ครอบคลุม : 
Sanyo Shinkansen,
Tokaido-Sanyo Main line (shinosaka- Shimonoseki),
Osaka loop line,              JR Tozai line,
Sakurajima line,              Kansai Main line (JR namba-imamiya),
Hanwa line (Tennoji-Hineno),    Kansai Airport line and miyajima Ferry

รถบัสที่ครอบคลุม : ไม่มี

Website : http://www.westjr.co.jp/english/travel/jrp/index.html

คำ แนะนำ : ข้อดีคือสามารถใช้ green car หรือ nozomi ได้ด้วย แต่ก็อีกนั่นแหละ
ถ้า จะนั่ง LTD EXP สายอื่นนอกจาก Haruka ก็ต้องเสียเงินค่าที่นั่ง LTD เพิ่มอยู่ดี แถมไปๆมาๆราคาสูสีกับแบบ JR Pass ที่ใช้ได้ทั่วทั้งญี่ปุ่นอีกต่างหาก ไม่ค่อยคุ้มเท่าไหร่





4.JR  Seishun 18 Kippu ตั๋วโปรโมชั่นพิเศษจาก JR ที่ออกเฉพาะช่วงเทศกาลเท่านั้น โดยจะต้องซื้อช่วงหนึ่ง และใช้ได้อีกช่วงหนึ่ง

ระยะการใช้ /ราคา:  5 วัน 11,500 เยน โดย มีสามช่วงได้แก่
ตั๋วspring ซื้อ 20 กพ. -31 มีค. ใช้ได้ 1 มีค-10 เม.ย./
ตั๋ว Summer ซื้อ 1 กค- 31 สค. ใช้ได้ 20 กค.-10 กย
ตั๋ว Winter ซื้อ 1 ธค.- 10 มค. ใช้ได้ 10 ธค.-20 มค.
(ทั้งหมด สามารถใช้แยกวันได้ และใครใช้ก็ได้)

ซื้อได้ที่ :  สถานที JR ทั่วไป ตามวันและเวลาที่กำหนดไว้

ขบวนรถไฟที่ครอบคลุม :  Local train, Rapid Train ของ JR 
**ไม่สามารถใช้กับ Express, Limited Express หรือ Shinkansen ได้****

สายรถไฟที่ครอบคลุม : สายหลักๆที่วิ่งโดย JR ทั่วญี่ปุ่น

รถบัสที่ครอบคลุม : ไม่มี

Website :  http://www.jreast.co.jp/e/pass/seishun18.html

คำ แนะนำ : ก็ดีนะ แต่ถ้าใช้กับ Express หรือ LTD express ไม่ได้จะมีประโยชน์อะไรละ??!! เพราะการเดินทางภายในตัวเมืองถ้าใช้ของ hankyu หรือ hanshin หรือ subway ของในตัวเมืองน่าจะสะดวกกว่านะ





บัตรลดเครือ Surutto Kansai เพื่อใช้ในการเดินทางระหว่างจังหวัดใน kansai area
1.Kansai Thru Pass

ระยะ การใช้ /ราคา:  2 วัน 3800 เยน และ 3 วัน  5000 เยน
สามารถใช้แยกวันได้

ซื้อ ได้ที่ : Kansai Airport KAA Travel desk ชั้น1,
Osaka Airport Information center,   Kyoto Station bus Information Center,
Osaka Visiting Center : Namba, Umeda, Tennoji, Shin Osaka, 
Nara City Information center,     Osaka International Youth Hostel,
Shin osaka youth hostel,            Pan star Ferry Osaka Terminal

ขบวนรถไฟ ที่ครอบคลุม :  Local, Express, Limited Express
(รวมค่าที่นั่งแบบ non reserve แล้ว)

สายรถไฟที่ครอบคลุม : 
Osaka : OSAKA MUNICIPAL SUBWAY/BUS/NEWTRAM,
OSAKA MONORAIL ,     KITA-OSAKA KYUKO RAILWAY,

Kyoto : EIZAN ELECTRIC RAILWAY

Kobe : KOBE KOSOKU RAILWAY,   KOBE MUNICIPAL SUBWAY/BUS,
KOBE ELECTRIC RAILWAY (SHINTETSU) ,PORT LINER/ROKKO LINER

Around Kansai : KINKI NIPPON RAILWAY (KINTETSU)*(partially),
KEIHAN ELECTRIC RAILWAY*(partially),
RANDEN (KEIFUKU RAILWAY),   SANYO ELECTRIC RAILWAY/BUS,
NANKAI RAILWAY,      HANKYU RAILWAY,      HANSHIN RAILWAY,
SEMBOKU RAPID RAILWAY,    NOSE RAILWAY,   
HIEIZAN SAKAMOTO CABLE,   HOKUSHIN KYUKO RAILWAY,
AMAGASAKI TRANSPORTATION SERVICE

รถบัสที่ครอบคลุม :  KYOTO MUNICIPAL SUBWAY/BUS,
OSAKA MUNICIPAL BUS,               SANYO Bus,     
AMAGASAKI CITY BUS,                 ITAMI CITY BUS,               
OSAKA AIRPORT TRANSPORTATION*(partially),   KYOTO BUS,       
KINTETSU BUS*(partially),            KEIHAN UJI BUS,
KEIHAN KYOTO KOTSU,                KEIHAN CITY BUS,
KEIHAN BUS*(partially),               KOBE CITY TRANSPORT PROMOTION,
SHINTETSU BUS,                         TAKATSUKI CITY BUS,
NANKAI WING BUS KANAOKA,       NANKAI WING BUS NANBU,
NANKAI BUS,                               NANKAI RINKAN BUS,
HANKYU DEN-EN BUS,                  HANKYU BUS,
HANSHIN BUS,                             WAKAYAMA BUS,
WAKAYAMA BUS NAGA

Website :  http://www.surutto.com/conts/ticket/3dayeng/index.html

คำ แนะนำ : นอกจากจะครอบคลุมทั้งรถไฟ และ รถบัส ยังมีส่วนลดอีกนับไม่ถ้วน สำหรับค่าเข้าสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ
ถ้าใครเดินทางและแวะที่ท่องเที่ยว เยอะๆ แนะนำว่าบัตรนี้คุ้มสุดๆเลย


ขอบคุณที่มา http://museumbackpacker.multiply.com/journal/item/56