Author Topic: ผาแดง- ซานกั๋วชื่อปี้  (Read 8719 times)

ontcftqvx

  • สมาชิกใหม่
  • *
  • Posts: 0
    • View Profile
ผาแดง- ซานกั๋วชื่อปี้
« on: December 04, 2013, 11:49:17 AM »
ท่ามกลางอากาศเย็นพอสบาย เราเดินทางมาถึง 'อู่ฮั่น' เมืองเอกของมณฑลหูเป่ย มีพื้นที่ 8,467.11 ตารางกิโลเมตร กับประชากรราว 8,100,000 คน เป็นเมืองที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานกว่า 3,000 ปี และเป็นจุดยุทธศาสตร์สำคัญในสมัยสามก๊ก ปัจจุบันอู่ฮั่นมีความสำคัญทั้งในฐานะเมืองอุตสาหกรรมเหล็ก รถยนต์ เครื่องจักร อาวุธ จนถึงการผลิตยาสูบ ทำรายได้ราวหมื่นล้านหยวนต่อปี

เพื่อให้สมดังตั้งใจในการเดินทางย้อนรอยสามก๊กครั้งนี้ ทันทีที่คนพร้อม รถพร้อม เราจึงมุ่งหน้าไปยัง 'ผาแดง' (ซานกั๋วชื่อปี้) หรือที่นักอ่านสามก๊กรู้จักกันในชื่อ 'เซ็กเพ็ก' ตั้งอยู่ห่างจากเมืองชื่อปี้ไปทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือ 36 กิโลเมตร ริมฝั่งแม่น้ำแยงซีด้านใต้ เป็นจุดที่ว่ากันว่าเป็นสถานที่ทำสงครามผาแดงระหว่างทัพพันธมิตรของซุนกวนและเล่าปี่กับทัพของโจโฉเมื่อปีค.ศ.208

เหตุการณ์ตามท้องเรื่องสามก๊กฉบับวรรณกรรมระบุว่า หลังจากเล่าปี่ทิ้งเมืองซินเอี๋ยและห้วนเสีย อพยพราษฎร์หนีการตามล่าของทัพโจโฉไปที่เมืองแฮเค้าที่เล่ากี๋ครองอยู่ จากนั้นจึงส่งขงเบ้งไปเจรจากับซุนกวนให้ร่วมกันทำศึกกับโจโฉ บังทองออกอุบายหลอกโจโฉใช้โซ่ผูกเรือทั้งหมดติดกันเป็นแพก่อนโจมตีด้วยไฟ ขณะที่ขงเบ้งทำพิธีเรียกลมพายุมาช่วยโหมเผาทัพเรือโจโฉจนพ่ายแพ้หมดรูป กลายเป็นกรณี 'โจโฉแตกทัพเรือ' นั่นเอง ว่ากันว่าเพลิงที่เผาผลาญกองทัพโจโฉครั้งนั้นทำให้หน้าผาบริเวณนี้ปรากฏเป็นสีแดงเพลิงไปทั่วทั้ง เป็นที่มาของชื่อ 'ผาแดง' หรือ 'ชื่อปี้' นั่นเอง อันที่จริงตลอดริมฝั่งแม่น้ำแยงซีมีจุดที่สันนิษฐานว่าเป็น 'ผาแดง' อยู่หลายแห่ง ก่อนที่นักประวัติศาสตร์จะร่วมกันลงความเห็นว่าจุดที่เรียกว่าผาแดงในปัจจุบันคือบริเวณที่ตรงตามประวัติศาสตร์มากที่สุด

หลังจ่ายค่าเข้าชมเรียบร้อย เราเริ่มต้นเส้นทางเดินสู่ผาแดงที่ 'กระท่อมบังทอง' แน่นอนว่าหลังเหตุการณ์ผ่านไป 1,800 ปีตัวกระท่อมของจริงย่อมไม่เหลือเศษซากให้เห็น มีเพียงอาคารหลังเล็กที่สร้างใหม่ตรงจุดที่คาดว่าเคยเป็นที่อาศัยของบังทอง กับต้นแปะก๊วยโบราณที่ว่ากันว่าบังทองเป็นผู้ลงมือปลูกด้วยตนเอง

จากกระท่อมบังทอง เราเดินต่อไปตามขั้นบันไดมุ่งหน้าขึ้นเขาชื่อปี้ จนถึง 'แท่นเรียกลม' ซึ่งเชื่อว่าเป็นจุดที่ขงเบ้งทำพิธีเรียกพายุนอกฤดูมาโจมตีกองทัพเรือโจโฉ เราพยายามมองหาแม่น้ำแต่ไม่เห็นเพราะมีป่าไม้ขวางอยู่เต็มตา แต่หากนึกภาพว่าไม่มีต้นไม้มาบังขงเบ้งก็อาจจะยืนบนแท่นพิธีแล้วมองลงไปเห็นแม่น้ำได้เหมือนกัน

เดินต่อไปตามทางก็จะพบกับ 'พิพิธภัณฑ์สงครามผาแดง' จุดนี้มีการจัดแสดงโบราณวัตถุบางส่วนที่ค้นพบในพื้นที่ มีข้อมูลเรื่องการศึกที่ผาแดงให้อ่านพอเข้าใจ ชุดขุนศึกให้ใส่ถ่ายรูปเล่นได้ถ้าไม่กลัวโรคติดต่อทางผิวหนัง ออกจากจุดนี้เดินต่อไปก็จะพบกับทางเดินเท้าที่ทอดยาวขึ้นลงตามแนวเนินเขา สองข้างทางกำลังมีการก่อสร้างอาคารสถานที่ตามประวัติศาสตร์สามก๊ก เช่น หอบัญชาการรบ ฐานทัพกองทัพง่อก๊ก ฯลฯ เพื่อพัฒนาพื้นที่ตรงนี้เป็นแหล่งท่องเที่ยวเต็มรูปแบบ



ประคองร่างเดินขึ้นเขาลงเนินกันพอเหนื่อย ในที่สุดเราก็เดินมาถึงเชิงผาแดงริมแม่น้ำแยงซีเสียที มหานทีกว้างใหญ่มองแทบไม่เห็นฝั่งตรงข้ามดูแล้วก็หลับตานึกภาพกองเรือมหึมาของโจโฉที่รุกคืบเข้ามา อาจจะเป็นลมแม่น้ำพัดเย็นเดียวกันนี้เองที่โหมเพลิงเผาทัพเรือโจโฉมอดไหม้ไปตามกัน แต่จะเป็นเพราะฝีมือการเรียกลมของขงเบ้งหรือโจโฉตัดสินใจเผาเรือตัวเองระหว่างถอนทัพเพื่อไม่ให้ฝ่ายตรงข้ามเอาไปใช้ได้ก็แล้วแต่ว่าจะเลือกเชื่อ 'ตำนาน' หรือ 'ประวัติศาสตร์' อย่างไรก็ตาม เดินไกลมาถึงจุดนี้ใครไม่ถ่ายรูปคู่กับตัวอักษร 'ผาแดง' เป็นที่ระลึกถือว่าพลาดอย่างไม่น่าให้อภัย


ontcftqvx

  • สมาชิกใหม่
  • *
  • Posts: 0
    • View Profile
Re: ผาแดง- ซานกั๋วชื่อปี้ 赤壁
« Reply #1 on: December 04, 2013, 11:50:11 AM »
ผาแดง (ซื่อปี้) ตามรอยสามก๊ก 赤壁

ตามรอยสามก๊กที่ ผาแดง หรือ ชื่อปี้
     ตั้งอยู่ห่างจากเมืองชื่อปี้ไปทางตะวันตกเฉียงเหนือ 36 กิโลเมตร ริมฝั่งแม่น้ำแยงซีด้านใต้ ที่จริงแล้วชื่อเดิมคือเมือง “ผูฉี” อยู่ในมณฑลหูเป่ย เพิ่งได้รับการเปลี่ยนชื่อเป็น “ชื่อปี้” เมื่อปี ค.ศ.1998 ทั้งนี้ เพื่อ...ให้เชื่อมโยงและสอดคล้องกับประวัติศาสตร์ในสงครามรบนั่นเอง จุดที่ทัพพันธมิตรของซุนกวนและเล่าปี่ผนึกกำลังเข้าสู้รบกับทัพของโจโฉซึ่งนักประวัติศาสตร์ลงความเห็นว่าเป็นบริเวณที่ตรงตามประวัติศาสตร์มากที่สุด สงครามครั้งนั้นทำให้หน้าผาแห่งนี้ปรากฏเป็นสีแดงเพลิง

     ปัจจุบันผาแดงแห่งนี้ กำลังพัฒนาให้ กลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญทางประวัติศาสตร์มีสิ่งปลูกสร้างตามประวัติศาสตร์ เช่น แท่นเรียกลม ปัจจุบันตรงจุดนี้ถูกสร้างเป็นอาคารขึ้นมาโดยมีรูปปั้นของเล่าปี่ กวนอู เตียวฮุย และขงเบ้ง เป็นอนุสรณ์ , หอบัญชาการรบ , ฐานทัพของง่อก๊ก ส่วนอีกด้านหนึ่งกำลังอยู่ระหว่างการก่อสร้างเมืองจำลองของเล่าปี่ เริ่มสร้างเมื่อปี 2007 และมีกำหนดเสร็จในเดือนตุลาคม 2009 บนยอดเขา จะมีรูปปั้นขนาดใหญ่ของจิวยี่หันหน้าไปทางแม่น้ำแยงซีเกียง

ontcftqvx

  • สมาชิกใหม่
  • *
  • Posts: 0
    • View Profile
Re: ผาแดง- ซานกั๋วชื่อปี้
« Reply #2 on: December 04, 2013, 11:52:31 AM »



ontcftqvx

  • สมาชิกใหม่
  • *
  • Posts: 0
    • View Profile
Re: ผาแดง- ซานกั๋วชื่อปี้
« Reply #3 on: December 04, 2013, 02:27:25 PM »
ตั้งอยู่ห่างจากเมืองชื่อปี้ไปทางตะวันตกเฉียงเหนือ 36 กิโลเมตร ริมฝั่งแม่น้ำแยงซีด้านใต้ ที่จริงแล้วชื่อเดิมคือเมือง “ผูฉี” อยู่ในมณฑลหูเป่ย เพิ่งได้รับการเปลี่ยนชื่อเป็น “ชื่อปี้” เมื่อปี ค.ศ.1998 ทั้งนี้ เพื่อต้องการให้เชื่อมโยงและสอดคล้องกับประวัติศาสตร์ในสงครามรบนั่นเอง จุดที่ทัพพันธมิตรของซุนกวนและเล่าปี่ผนึกกำลังเข้าสู้รบกับทัพของโจโฉซึ่งนักประวัติศาสตร์ลงความเห็นว่าเป็นบริเวณที่ตรงตามประวัติศาสตร์มากที่สุด สงครามครั้งนั้นทำให้หน้าผาแห่งนี้ปรากฏเป็นสีแดงเพลิง จนได้รับการขนานนามว่า “ผาแดง” หรือชื่อปี้

ปัจจุบันผาแดงแห่งนี้ กำลังพัฒนาให้ กลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญทางประวัติศาสตร์มีสิ่งปลูกสร้างตามประวัติศาสตร์ เช่น แท่นเรียกลม ปัจจุบันตรงจุดนี้ถูกสร้างเป็นอาคารขึ้นมาโดยมีรูปปั้นของเล่าปี่ กวนอู เตียวฮุย และขงเบ้ง เป็นอนุสรณ์ , หอบัญชาการรบ , ฐานทัพของง่อก๊ก ส่วนอีกด้านหนึ่งกำลังอยู่ระหว่างการก่อสร้างเมืองจำลองของเล่าปี่ เริ่มสร้างเมื่อปี 2007 และมีกำหนดเสร็จในเดือนตุลาคม 2009 บนยอดเขา จะมีรูปปั้นขนาดใหญ่ของจิวยี่หันหน้าไปทางแม่น้ำแยงซีเกียง

ศึกชื่อปี้ เป็นสงครามที่มีความสำคัญที่สุดสงครามหนึ่งในยุคปลายราชวงศ์ฮั่นในรัชสมัยของพระเจ้าฮั่นเหี้ยนตี้ ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของยุคสามก๊กในประเทศจีนในเวลาต่อมา ศึกผาแดงนี้เกิดขึ้นในปี พ.ศ. 751 โดยฝั่งหนึ่งเป็นกองทัพพันธมิตรของเล่าปี่และซุนกวนทางตอนใต้ และอีกฝั่งคือทัพของโจโฉทางตอนเหนือ ซุนกวนและเล่าปี่นั้นได้ชัยชนะเหนือโจโฉ ทำให้ความพยายามในการยึดดินแดนทางใต้ของโจโฉต้องล้มเหลวลง โดยจุดแตกหักเกิดขึ้น ณ ตำบลที่เรียกว่า "เซ็กเพ็ก" ริมแม่น้ำแยงซีเกียง ศึกผาแดงนี้นับว่าเป็นศึกที่มีชื่อเสียงมากที่สุดในสามก๊กและประวัติศาสตร์จีนก็ว่าได้

ในวรรณคดี เล่าปี่ต้องทิ้งเมืองซินเอี๋ยและอ้วนเสียอพยพราษฎรจำนวนมาก เพื่อหนีการตามล่าจากโจโฉไปอยู่ที่เมืองแฮเค้าของเล่ากี๋ จากนั้นจึงส่งขงเบ้งไปเป็นทูตเจรจาขอให้ซุนกวนร่วมกันต้านโจโฉ ขณะที่โจโฉสามารถยึดเกงจิ๋วที่เดิมเป็นของเล่าเปียวได้สำเร็จ เพราะชัวมอคิดทรยศยอมยกเมืองให้โจโฉ ซึ่งภายหลังโจโฉก็สั่งสังหารเล่าจ๋องและชัวฮูหยินเสีย และประหารชัวมอและเตียวอุ๋น ตามแผนของจิวยี่ แม่ทัพใหญ่ฝ่ายง่อก๊ก ฝ่ายขงเบ้งเมื่อไปถึงกังตั๋ง ต้องเผชิญกับที่ปรึกษาของซุนกวนหลายคนรุมถล่มด้วยวาจา แต่สามารถโต้กลับไปได้ทุกคน ในที่สุดซุนกวนและจิวยี่ก็ตัดสินใจรบกับโจโฉเพราะถูกขงเบ้งยั่วจนเกิดโทสะ ทั้ง 2 ทัพตั้งทัพคอยประจัญบานกัน ตลอดเวลาที่ขงเบ้งอยู่ที่นี่
จิวยี่พยายามหาทุกวิถีทางที่จะหาเรื่องสังหารขงเบ้งให้ได้ แต่ขงเบ้งก็สามารถเอาตัวรอดไปได้ทุกครั้ง เช่น สั่งเกณฑ์ขงเบ้งให้ทำลูกธนูแสนดอกให้เสร็จภายใน 10 วัน แต่ขงเบ้งขอเวลาแค่ 3 วัน โดยการใช้เรือเบาบรรทุกหุ่นฟางแล่นไปหาฝ่ายโจโฉในยามดึกหลังเที่ยงคืนขณะที่หมอกลงจัด ทหารฝ่ายโจโฉจึงระดมยิงธนูเข้าใส่ แต่ก็ติดกับหุ่นฟาง ลูกธนูแสนดอกจึงได้โดยไม่ต้องออกแรงอะไร และอีกครั้งเมื่อจิวยี่ต้องการลมสลาตันเพื่อเผาทัพเรือโจโฉ ที่ถูกผูกเป็นแพเดียวกันด้วยอุบายของบังทอง แต่เนื่องจากเป็นฤดูหนาวไม่มีลมสลาตัน จิวยี่เครียดกับเรื่องนี้จนกระอักเลือดล้มป่วยลง ขงเบ้งจึงทำพิธีเรียกลมขึ้น ในที่สุดเมื่อถึงวันที่ต้องแตกหัก ตรงกับวันแรม 5 ค่ำ เดือนอ้าย (ตรงกับวันที่ 10 เดือน 10 ตามปฏิทินจีน) ลมสลาตันก็มา ในที่สุดก็สามารถเผากองทัพของโจโฉให้ราบคาบได้ โจโฉต้องหลบหนีไปอย่างทุลักทุเลเกือบเอาชีวิตไม่รอด และขงเบ้งก็ได้ให้กวนอูดักพบโจโฉเป็นด่านสุดท้าย เพื่อที่จะให้กวนอูไว้ชีวิตโจโฉ เพื่อล้างบุญคุณที่เคยมีต่อกันในอดีตด้วย หลังจากเสร็จสิ้นศึกนี้ ทัพซุนเล่านั้นได้ยึดดินแดนเกงจิ๋วเกือบทั้งหมด โดยทัพจิวยี่สามารถเอาชนะโจหยินยึดเมืองกังเหลงได้ ส่วนเล่าปี่นั้นได้ยึดครองดินแดนเกงจิ๋วใต้ทั้งหมด
ข้อมูลทางประวัติศาสตร์ของศึกผาแดงยังคงเป็นที่ถกเถียงมาจนถึงปัจจุบัน แม้แต่สถานที่รบยังกำหนดชี้ชัดลงไปไม่ได้ โดยคาดว่าจะอยู่ทางฝั่งใต้ของแม่น้ำแยงซี บางแห่งแถบทางตะวันออกเฉียงใต้ของเมืองอู่ฮั่นในปัจจุบั