Author Topic: เทียบ2เก๋งดีเซล"ครูซVSโฟกัส"  (Read 7678 times)

ontcftqvx

  • สมาชิกใหม่
  • *
  • Posts: 0
    • View Profile
เทียบจะจะ! 2เก๋งขุมพลังดีเซล เชพโรเลต ครูซ VS ฟอร์ด โฟกัส ค่ายไหนน่าใช้กว่ากัน

โดย...ทีมข่าวยานยนต์



แม้ว่าตลาดรถยนต์นั่งเครื่องยนต์ดีเซลจะได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายในหลายประเทศทั่วโลก แต่สำหรับประเทศไทยแล้ว ต้องยอมรับว่ายังไม่สามารถเบียดแย่งชิงเข้ามาได้มากนัก เนื่องจากภาพลักษณ์ยังเป็นรองเครื่องยนต์เบนซินอยู่พอสมควร

แถมที่มีเข้ามาทำตลาดก็ดันราคาแพงตามราคาเครื่องยนต์ กลายเป็นรุ่นท็อปของแต่ละรุ่นแต่ละยี่ห้อไปเสียอีก ทำให้ลูกค้าเลือกเป็นเจ้าของได้ยากไปอีก ซึ่งก็เป็นเรื่องที่ต้องทำใจครับ เพราะราคาเครื่องยนต์ดีเซลแพงกว่าเครื่องยนต์เบนซินเห็นๆ แต่หากมองระยะยาวเครื่องยนต์ดีเซลน่าคบหากว่า ทั้งในเรื่องของอัตราความประหยัดและความคงทนของเครื่องยนต์

ฟอร์ดกลายเป็นผู้นำในตลาดรถยนต์นั่งเครื่องยนต์ดีเซลในประเทศไทย เมื่อตัดสินใจเปิดตัว โฟกัส TDCi ในประเทศไทยในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา ก่อนที่เชฟโรเลตเพื่อนซี้จากอเมริกาจะเปิดตัว ครูซ ดีเซล ที่มาพร้อมรหัสแอลทีแซด เมื่อปีที่ผ่านมา

จริงๆ แล้วการเปรียบเทียบในครั้งนี้ หากมองแต่หน้าตาและอายุอานาม ก็อาจจะคิดว่าเป็นการเปรียบเทียบคนละช่วงเวลา เพราะฟอร์ด โฟกัส นั้นในตลาดโลกก็เปิดตัวรุ่นใหม่ไปแล้ว และมีคิวที่จะเข้ามาถึงประเทศไทยในช่วงเวลาอีกไม่ถึงปีเสียด้วยซ้ำ ขณะที่เชฟโรเลต ครูซ เป็นโมเดลใหม่ ที่เพิ่งเปิดตัวแบบเอี่ยมอ่องในประเทศไทย


แต่ก็ต้องนำมาเทียบกัน เพราะถือว่าราคาอยู่ระดับ 1 ล้านกว่าบาทเหมือนกัน เครื่องยนต์ดีเซล 2.0 ลิตรเท่ากัน

แต่เมื่อเอามาจอดเทียบกันจะเห็นความแตกต่างในเรื่องของเวลาอย่างชัดเจน หน้าตาของครูซดูโฉบเฉี่ยวและทันสมัยกว่าโฟกัสอย่างเห็นได้ชัด ด้วยการออกแบบในแนวทางของรถยนต์ยุคใหม่ ที่ให้อารมณ์พลิ้วไหวมากกว่าอยู่แล้ว

เชฟโรเลต ครูซ มาพร้อมกับรองเท้าขนาด 17 นิ้ว ใหญ่กว่าฟอร์ดที่มาพร้อมกับแม็กขนาด 16 นิ้ว อุปกรณ์ภายนอกพื้นฐานมีกันอย่างสูสี แต่ฟอร์ดให้ไฟเลี้ยวที่กระจกมองข้างมาด้วย แต่ครูซไม่มี แต่ก็ไม่ถือว่าเป็นเรื่องใหญ่

ภายในโฟกัส


แต่ความแตกต่างเริ่มเห็นกันชัดๆ ตั้งแต่ก้าวเข้าไปในรถ โดยเชฟโรเลต ครูซ มาพร้อมระบบกุญแจ Keyless ที่ทำให้การเปิด-ปิดประตู และสตาร์ต-ดับเครื่องยนต์ ทำได้โดยไม่ต้องใช้กุญแจ ช่วยอำนวยความสะดวกให้กับคนที่ขี้เกียจหยิบกุญแจขึ้นมากดปุ่มเปิดประตู เสียบกุญแจสตาร์ตเครื่อง ในขณะที่เจ้าของฟอร์ด โฟกัส ต้องกดรีโมตเปิด-ปิดประตู และบิดกุญแจเพื่อสตาร์ต

เปิดประตูพุ่งเข้ามานั่งในรถ ความแตกต่างในเรื่องของกาลเวลายิ่งชัดเจน เพราะภายในของฟอร์ด โฟกัส ยังเป็นแนวทางการออกแบบในเชิงอนุรักษนิยม แต่ก็มีอุปกรณ์การใช้งานที่จำเป็นเข้ามาในรถอย่างครบครัน ทั้งระบบปรับอากาศแบบดิจิตอล มีแป้นควบคุมเครื่องเสียงที่ด้านหลังพวงมาลัย การตกแต่งทั้งหมดเป็นโทนสีเงินตัดกับเทา

ขณะที่เชฟโรเลต ครูซ มาพร้อมกับแนวคิดในการออกแบบรถยนต์แบบใหม่ ห้องโดยสารมีเส้นสายสวยงามและดูเข้ารูปกับผู้ขับขี่มากกว่าอย่างเห็นได้ชัด อุปกรณ์ที่ติดตั้งมาเป็นอุปกรณ์ไฟฟ้าหรือระบบดิจิตอลทั้งสิ้น ส่วนของเล่นที่ติดมากับรถก็มีเยอะแยะมากมาย จนไม่สามารถลองเล่นให้ได้ทั้งหมดในเวลาไม่กี่วันที่ยืมมาทำการทดสอบ

สตาร์ตเครื่องยนต์แล้วเสียงเครื่องยนต์ดังกระหึ่มไม่แพ้กันครับ ขับไปไหนมาไหนผ่านคนที่ยืนอยู่บนฟุตปาทแล้ว เห็นทำสีหน้าตกใจพอพอกัน แต่การเก็บเสียงภายในห้องโดยสารถือว่าทำได้ในระดับใกล้เคียงกันครับ ไม่แตกต่างกันมาก เปิดเพลงฟังกลบได้สบายๆ

อุปกรณ์ที่ติดตั้งมาในครูซในเรื่องของการขับขี่ ถือว่ามีมาให้อย่างพร้อมเพรียง ไม่ว่าจะเป็นระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ หรือแม้แต่ระบบอำนวยความสะดวกอย่างช่องต่อยูเอสบี ขณะที่อุปกรณ์ด้านความปลอดภัยมีมาให้อย่างสูสี ในส่วนของระบบปัดน้ำฝนอัตโนมัติ ระบบปรับอากาศดิจิตอล หรือจอบอกข้อมูลที่เห็นกันอย่างชัดเจน นั่นคือข้อดีชัดๆ ของเชฟโรเลต ครูซ

แต่สิ่งที่ฟอร์ด โฟกัส ดูดีกว่าก็มี นั่นคือ “การขับขี่” ครับ เพราะดูเหมือนว่าเจ้าเครื่องยนต์ TDCi ที่จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ เพาเวอร์ชิฟต์ 6 สปีด จะทำงานอย่างกระตือรือร้นและพร้อมที่จะออกตัววิ่ง มากกว่าเครื่องยนต์ดีเซลและเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีดของครูซ อย่างเห็นได้ชัด

หากเป็นผู้ขับขี่แบบทั่วไปที่ไม่เน้นการเร่งแซงเป็นหลัก การขับขี่ของทั้งครูซและโฟกัสถือว่าดีแบบเสมอภาคครับ แต่ถ้าเมื่อไหร่ที่ต้องการรีดเค้นกำลังของรถให้ออกมาอย่างรวดเร็ว เกียร์เพาเวอร์ชิฟต์ของฟอร์ด ก็ยังคงความเป็นเกียร์เทพที่เหนือชั้นกว่าหลายขุม พารถพุ่งทะยานไปได้อย่างไม่ยากลำบาก

ภายในครูซ



นอกจากเรื่องเกียร์ที่เหนือกว่าแล้ว ความรู้สึกในการขับขี่โดยรวม ฟอร์ด โฟกัส ให้อารมณ์การขับขี่ที่สนุกกว่าครับ อันนี้ไม่ได้มองในแง่ของสมรรถนะเป็นหลัก แต่มองที่ความรู้สึกของการขับขี่ แน่นอนว่า เราอาจจะขับรถ 2 คันนี้ด้วยความเร็วที่ไม่แตกต่างกันเท่าไรนัก แต่อาจจะเป็นเพราะครูซถูกเซตมาโดยเน้นไปที่เรื่องของความสะดวกสบายเป็นหลัก ทำให้ตัวรถได้อารมณ์ที่แตกต่างกันพอสมควร

ฟอร์ดวางราคาจำหน่าย โฟกัส TDCi ไว้ที่ 1.169 ล้านบาท แพงกว่าเชฟโรเลตที่ตั้งค่าตัวครูซเอาไว้ที่ 1.165 ล้านบาทเล็กน้อย ต้องถามตัวเองให้ดีว่าอยากได้อะไรละครับ นอกเหนือจากรถยนต์นั่งเครื่องยนต์ดีเซลแล้ว อุปกรณ์อำนวยความสะดวกต่างๆ หรือความสนุกสนานในการขับขี่ เป็นปัจจัยสำคัญในการเลือกซื้อรถของคุณมากกว่ากัน

หรือถ้าเกิดยังเลือกตอนนี้ไม่ได้ ลองดูกันไปเรื่อยๆ ครับ ฟอร์ดมีแผนที่จะเปิดตัวโฟกัส ใหม่ รุ่นที่จะใช้โรงงานผลิตในประเทศไทยในช่วงกลางปี 2555 ขณะที่เชฟโรเลตเอง ถ้าไม่มีอะไรผิดพลาด เครื่องยนต์ดีเซลรุ่นใหม่ที่มีข่าวลือว่าจะนำมาติดตั้งในครูซ ก็น่าจะออกมาในช่วงเวลาที่ไม่แตกต่างกันมากกับการเปิดตัวของโฟกัสใหม่



ถ้าตอนนี้ยังเลือกไม่ได้ ใช้รถเก่าไปอีกสักปี รอเวลาตัดสินใจซื้อรุ่นใหม่ปีหน้าไปเลยก็ยังไม่สาย!!!

 

« Last Edit: September 01, 2011, 12:09:40 PM by webdesign »