เที่ยวทั่วไทยเทศ กับ นพ. อนุพงศ์ เพ็ญจันทร์ เอเธนส์ – เดลฟี – โอลิมเปีย – ไมซ

[ontcftqvx]

เที่ยวทั่วไทยเทศ กับ นพ. อนุพงศ์  เพ็ญจันทร์


เอเธนส์ – เดลฟี – โอลิมเปีย – ไมซีเน่ – นาฟลิออน – เอฟิเธารอส – ล่องเรืออ่าวซาโรนิค
10 – 17 เมษายน 2555
อังคาร 10 เม.ย. 2555      กรุงเทพฯ - เอเธนส์                     
23.30    พร้อมคณะที่ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เคาน์เตอร์ E สายการบิน ETIHAD (EY)

พุธ 11 เม.ย. 2555         เอเธนส์                   
02.55   ออกเดินทางโดย  เที่ยวบินที่ EY407 / EY091  แวะเปลี่ยนเครื่องที่ เมืองอาบูดาบี สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (06.20 – 09.30)
13.25   เดินทางถึง ท่าอากาศยานกรุงเอเธนส์ สาธารณรัฐเฮลเลนิก หรือ ประเทศกรีซ  หลังผ่านพิธีการตรวจคนเข้าเมืองเรียบร้อยแล้ว    นำชม กรุงเอเธนส์ เมืองที่เต็มไปด้วยประวัติศาสตร์  ถึงแม้ว่าความยิ่งใหญ่ของเอเธนส์จะมีเพียงแค่ 50 ปี แต่มรดกของเมืองโบราณมีให้เห็นเด่นชัด ผ่านชม รัฐสภา โรงละครแห่งชาติ สุสานทหารนิรนาม ซึ่งมีการสวนสนามของทหารกรีก ที่ได้รับการขนานนามว่า นักรบใส่กระโปรงบัลเล่ต์   ชม ศาลาว่าการเมืองเอเธนส์   สถานที่จัดการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกในปี 2004   จากนั้นนำชม นครอะโครโปลิส (ACROPOLIS) ที่ตั้งอยู่ใจกลางเมืองสูงขึ้นไปประมาณ 100 เมตร ถือเป็นสิ่งก่อสร้างที่สง่างามและยิ่งใหญ่ที่สุดท่ามกลางสิ่งก่อสร้างทั้งหลาย  ผ่านประตูทางเข้า “โพรเพอเลียม”  สร้างด้วยหินอ่อนที่ได้มาจากภูเขาเพนเทลิคอน มีความยาว 164 ฟุต (50 เมตร) ชม ความงามของ เสาไอโอนิค 8 ต้น ที่คงอยู่ในสภาพที่ไม่บุบสลาย  นำชม วิหารพาร์เธนอน  วิหารที่สร้างขึ้นเพื่อบูชาเทวีพรหมจรรย์   เป็นวิหารในแบบดอริก มีความยิ่งใหญ่มากเมื่อยืนต่อหน้า   วิหารนี้สร้างขึ้นอย่างงดงามโดยคำนึงถึงทัศนียภาพของผู้ชมที่มองจากภายนอกเป็นหลัก  จริง ๆ แล้วเดิมวิหารนี้ประดับประดาไปด้วยภาพแกะสลักนูนสูงนูนต่ำทั้งหน้าบันและภายใน ภายหลังที่กรีซถูกปกครองภายใต้จักรวรรดิออตโตมันของพวกเตอร์ก ได้มีทูตชาวอังกฤษใช้อิทธิพลนำภาพแกะสลักทั้งหลายกลับอังกฤษและต่อมาขายต่อให้กับพิพิธภัณฑ์อังกฤษ (British Museum) ในกรุงลอนดอน ใครที่ไปลอนดอนควรหาโอกาสไปดูกรีกคอลเลกชั่นที่สมบูรณ์ที่สุดในโลก จะได้เห็นความยิ่งใหญ่ของรายละเอียดของวิหารแห่งนี้   ท่านยังสามารถชมความงามของหน้าจั่ววิหารสลักเป็นเรื่องราวของเทพีอะธีนา และเทพเจ้าโพเซดอน   วิหารนี้สร้างขึ้นเมื่อประมาณ 500 ปีก่อนคริสตกาล สร้างขึ้นเพื่ออุทิศแด่เทพีอะธีนา(Athena) เทพีผู้ปกป้องนครแห่งนี้  ซึ่งมีชื่อเรียกแบบชาวโรมันว่า มิเนอร์วา (Minerva) ตามตำนานกล่าวว่านครนี้เมื่อสร้างเสร็จมีความงดงามมาก เหล่าทวยเทพทั้งหลายจึงต้องการเป็นผู้ปกป้องคุ้มครองเมืองนี้ สุดท้ายเหลือสององค์ คือ อะธีนาและโพไซดอน (หรือเนปจูน ถ้าเรียกตามแบบโรมัน) ที่ต้องการแย่งชิงกันเพื่อได้สิทธิ์ในการดูแลนครแห่งนี้ เหล่าทวยเทพจึงให้แต่ละองค์มอบของขวัญว่าใครจะให้ สิ่งที่ดีมีประโยชน์ที่สุดแก่ชาวเมือง ทั้งคู่และเหล่าทวยเทพจึงเสด็จไปบนเนินเขาอะโครโปลิส   เทพโพไซดอน เอาตรีศูลกระแทกไปที่พื้นก่อน บังเกิดเป็นม้าตัวแรกของโลก  และเทพโพไซดอนอธิบายให้ทราบถึงประโยชน์ของสัตว์ชนิดนี้ว่า สามารถใช้เป็นพาหนะที่มีความรวดเร็ว   เมื่อถึงตาเทพีอะธีนา เธอได้บันดาลให้เกิดต้นมะกอกขึ้น พร้อมทั้งอธิบายถึงประโยชน์สารพัดของมะกอก และมะกอกยังเป็นสัญลักษณ์ของสันติภาพอีกด้วย     เมื่อได้ยินดังนั้น   เหล่าทวยเทพจึงยกเมืองนี้ให้อยู่ในความคุ้มครองของเทพี


อะธีนา และขนานนามเมืองนี้ว่า เอเธนส์ (Athens) สืบมา  ปัจจุบันมีต้นมะกอกอยู่ ณ ตำแหน่งที่เชื่อว่าอะธีนาปลูกต้นนี้ไว้เป็นครั้งแรก และมีจุดที่เชื่อว่าโพไซดอนเอาตรีศูลกระแทกพื้นด้วย  วิหารพาร์เธนอนแห่งนี้ครั้งหนึ่งเคยมีรูปปั้นของเทพีอะธีนายืนอยู่ในภายในวิหาร รูปปั้นนี้ทำด้วยงาช้างและทองคำ มีความสูงถึง 41 ฟุต 10 นิ้ว  มือซ้ายถือโล่   ฝ่ามือขวามีรูปปั้นของเทพี แห่งชัยชนะสูงถึง 6 ฟุต 4 นิ้ว  ปัจจุบันหายสาบสูญไป   รูปปั้นที่เป็นรูปจำลองขนาดเท่าของเดิมทุกประการ  อยู่ที่เมืองแนชวิลล์ สหรัฐอเมริกา    ใกล้ ๆ กันกับพาร์เธนอนทางด้านทิศเหนือ    บนยอดอะโครโปลิสจะเห็นอีกอาคารหนึ่งเรียกว่า   อิเรคทีออน (Erechtheion) มีขนาดย่อมกว่าพาร์เธนอน  แต่มีความน่าสนใจในตัวเอง   เป็นอาคารแบบไอออนิก (สังเกตที่หัวเสา) เป็นอาคารที่อสมมาตร    เมื่อมองจากแต่ละด้านจะมีความแตกต่างกัน        สิ่งที่น่าสนใจที่สุดของอาคารนี้คือรูปปั้นเทพี 6 นางทำหน้าที่เป็นเสาใช้ศีรษะค้ำยันหลังคา ซึ่งมีชื่อ เรียกว่า คารีอาทีด (Caryatids)  รูปปั้นที่เห็นบนระเบียงนี้เป็นรูปปั้นที่จำลองแบบจากของเดิม ส่วนของจริง นางหนึ่งไปยืนอวดโฉมให้คนทั่วโลกชื่นชมในอังกฤษที่ British Museum ส่วนอีกห้านางที่เหลือ ย้ายไปไว้ในพิพิธภัณฑ์บนอะโครโปลิส ภายใต้กระจกกันอากาศภายนอก เพื่อไม่ให้ผุกร่อนไปมากกว่านี้ สามารถเข้าไปชมได้หลังจากเดินชมอาคารภายนอกทั่วแล้ว  มีเสียงเล่าลือว่า หลังจากที่นางหนึ่งโดนนำไปไว้ที่อังกฤษ วันดีคืนดีชาวบ้านจะได้ยินเสียงผู้หญิงร่ำไห้ระงมมาจากยอดเขา   นอกจากนั้นยังมีสถานที่น่าสนใจให้ท่านเที่ยวชมอีกหลายแห่ง  ที่จะสร้างความประทับใจให้แก่ท่าน
ค่ำ    บริหารอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารไทย   หลังอาหารนำท่านเข้าสู่ที่พัก HOTEL TITANIA ระดับ 4 ดาว หรือเทียบเท่า 

พฤหัสบดี 12 เม.ย. 2555      เอเธนส์ - เดลฟี
เช้า   บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม      จากนั้นเดินทางสู่ เมืองเดลฟี (183 กม.) เมืองที่เป็นอาณาจักรของอพอลโลเมื่อครั้งอดีตกาล  และขึ้นชื่อในเรื่องหญิงงาม  ตั้งอยู่บนไหล่เขาพาร์นาสซัส (Parnassus) ที่มีภูมิประเทศสวยงามมาก  อยู่บนยอดภูเขาปาร์นัสซัส สูง 8,058 ฟุต  ในอดีตเคยได้รับการขนานนามว่าเป็นศูนย์กลางโลกหรือสะดือของโลก (navel of the earth)  ปัจจุบันได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกโดยองค์การยูเนสโก   เมืองนี้ในอดีตเป็นที่รู้จักกันว่าเป็นที่ตั้งของวิหารแห่งเทพอพอลโล ซึ่งเป็นสุริยเทพตามความเชื่อของชาวกรีกโบราณ  ปัจจุบันวิหารเทพอพอลโลผุพังจนเหลือแต่ซาก  วิหารนี้ตั้งอยู่บนไหล่เขา ต่ำกว่าโรงละครกลางแจ้งลงไปหนึ่งชั้น  ปัจจุบันจะเห็นเพียงแค่ฐานรูปสี่เหลี่ยมและมีเสา 4-5 ต้นทางด้านซ้าย  ในอดีตวิหารแห่งนี้เป็นที่รู้จักกันเนื่องจากมีนักบวชหญิงที่เป็นเหมือนร่างทรงของเทพอพอลโล (มีชื่อเรียกในภาษาอังกฤษว่า oracles) ที่จะคอยให้คำพยากรณ์ตั้งแต่เรื่องส่วนตัวถึงเรื่องการบ้านการเมือง  ใครจะส่งทหารไปรบที่ไหนก็ต้องมาปรึกษาคำพยากรณ์ของเทพอพอลโล ที่วิหารแห่งเมืองเดลฟีนี้  และเป็นสถานที่สักการะที่เก่าแก่ตั้งอยู่กลาง แอมฟิเธียเตอร์ เป็นหินตามธรรมชาติ  ซึ่งนับถือกันว่าเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่สุดของชาวกรีกมานานนับศตวรรษ  ท่านจะได้ชมต้นกำเนิดของหลักศาสนาที่มีอิทธิพลในสมัยศริสตกาล ซึ่งการบูชายันต์เป็นสิ่งที่ทำกันมาช้านานตามความเชื่อโบราณ ชม ไพเธี่ยน อพอลโล  เทพเจ้าแห่งความงามและสงครามกรีก ท่านจะได้ชมรูปปั้นเทพเจ้าอพอลโลที่สวยงาม  และมีนัยน์ตาสีฟ้า  ชมวิหารที่มีทางขึ้นอันคดเคี้ยววกวนมีฐานรูปปั้น ระเบียงโบสถ์ สถานที่เก็บสมบัติ  สถานที่เก็บเครื่องสังเวยที่ใช้    ในการตั้งสัตย์อธิษฐานของชาวเอเธนส์  ตัววิหารสร้างด้วยหินอ่อนสีขาว  ซึ่งถูกนำขึ้นมาจากเมืองพารอส  ที่อยู่ห่างไกลเพื่อนำมาสร้างวิหารอย่างยากลำบาก
เที่ยง   บริการหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
บ่าย   นำท่านเข้าสู่ที่พัก อิสระให้ท่านได้พักผ่อน หรือ  เที่ยวชมเมืองเดลฟีที่เต็มไปด้วยศาสนสถานในสมัยอดีตที่หลงเหลือไว้ให้ท่านศึกษาเที่ยวชมอยู่เป็นจำนวนมาก
18.30บริการอาหารค่ำ ณ ห้องอาหาร   หลังอาหารนำท่านเข้าสู่ที่พัก HOTEL DELPHI PALACE ระดับ 4 ดาว หรือเทียบเท่า 

[ontcftqvx]

ศุกร์ 13 เม.ย. 2555         เดลฟี – โอลิมเปีย            
07.00   บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของที่พัก   นำท่านเดินทางสู่  เมืองโอลิมเปีย  (ประมาณ 3 ชม.) ระหว่างทางท่านจะ    ได้ชมความงามตามธรรมชาติผสมผสานกับบ้านเมืองที่แสดงให้เห็นถึงอารยธรรมที่เก่าแก่
เที่ยง   บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
บ่าย   ชม เมืองโอลิมเปีย เมืองนี้เป็นที่ตั้งของวิหารแห่งเทพซูส (Temple of Zeus)  ซึ่งเป็นหนึ่งในเจ็ดสิ่งมหัศจรรย์ของโลกยุคโบราณ ปัจจุบันเหลือแต่ซาก และเป็นสถานที่ๆ การจัดการแข่งขันกีฬาโอลิมปิคขึ้นเป็นครั้งแรกในปี 776 ก่อนคริสตกาล ชม สนามกีฬาโอลิมเปีย ในอดีตกาล เฮอร์คิวลิส และอพอลโลได้ทำการแข่งขันกัน ณ ที่แห่งนี้    ท่านจะได้ชมรูปปั้นของเฮอร์เมสผู้ยิ่งใหญ่ และ ชมรูปปั้นเทพเจ้าเซอูส ที่วิหารเทพเจ้าเซอูส ซึ่งได้รับการยอมรับว่าเป็น 1 ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลก ครั้งหนึ่งคือสถานที่สักการบูชา   ที่มีความสำคัญมากกว่าวิหารกรีกใดๆ   จนอริสโตเติลถือว่า  ยิ่งใหญ่เท่าเทียมกับพีระมิดแห่งอียิปต์    แต่
ปัจจุบันหลงเหลือเสาแบบโครินเธียนเพียง 15 ต้นจากเดิมที่มีอยู่ 104 ต้น   
19.00   บริการอาหารค่ำ ณ ห้องอาหาร   หลังอาหารนำท่านเข้าสู่ที่พัก HOTEL EUROPA OLYMPIA ระดับ 4 ดาว หรือเทียบเท่า

เสาร์ 14 เม.ย. 2555         โอลิมเปีย – เอพิเธารอส – ช่องแคบโครินธ์ -  เอเธนส์   
07.00    บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของที่พัก   นำเดินทางสู่ เมืองไมซีเน่ (Mycenae)  หรือออกเสียงแบบกรีกว่า ไมคิเน  เมืองนี้มีประวัติเก่าแก่ยาวนาน มีหลักฐานการตั้งรกรากของผู้คนกว่า 2,000 ปีก่อนคริสตกาลในยุคบรอนซ์ จนเกิดเป็นชุมชนใหญ่ขึ้น เมืองนี้มีความเก่าแก่ยิ่งกว่าเอเธนส์หรือเมืองอื่นๆ  ในช่วงระหว่างศตวรรษที่ 15 ก่อนคริสตกาล ถึงศตวรรษที่ 12 ก่อนคริสตกาล     อาจกล่าวได้ว่า  เมืองนี้เป็นแหล่งกำเนิดของอารยธรรมตะวันตกเลยทีเดียว     ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกขององค์การยูเนสโก้ในปี ค.ศ.1999   ชม ประตูสิงโต (Lion Gate)  ที่ซึ่งนางคลีเทมเนสตรา Klytemnestra จัดพิธีต้อนรับสามี “อะกาแมนอน”ให้ลอดผ่านประตูนี้ หลังกลับจากศึกเมืองทรอย เหนือประตูจะเป็นแผ่นหินรูปสามเหลี่ยมเพื่อรองรับน้ำหนักของก้อนหินตอนบน แกะสลักเป็นรูปสิงโตสองตัวหันหน้าเข้าหากัน   เมืองนี้เป็นศูนย์กลางของอาณาจักรกรีกที่ทำสงครามกับเมืองทรอยจนเป็นเรื่องราวอันยิ่งใหญ่ ที่จบลงด้วยความพ่ายแพ้ของชาวทรอย  ชม โรงละคร (theatre) แห่งเมืองเอพิดอรัส  (Epidaurus) มีความสวยงามทั้งในแง่ของสมมาตรและรูปร่างที่ได้สัดส่วน เดิมทีชาวกรีกสร้างที่นั่งไว้ 34 ขั้น ต่อมาชาวโรมันได้ต่อเติมให้สูงเพิ่มขึ้นไปอีก 21 ขั้น  สิ่งที่น่าอัศจรรย์ของโรงละครแห่งนี้คือ เรื่องของอคูสติกที่ดีมาก ๆ  ถ้านักแสดงยืนอยู่ ณ จุดตรงกลางบริเวณลานแสดงแล้วร้องหรือพูดด้วยเสียงปกติ    โดยไม่ต้องใช้เครื่องขยายเสียง  ผู้ชมบนอัฒจรรย์ที่อยู่สูงแค่ไหนก็ตามจะได้ยินเสียงอย่างชัดเจน  แต่ถ้านักแสดงขยับห่างออกมาจากจุดตรงกลางลานเพียง 1-2 เมตร ผู้ชมที่นั่งอยู่แถวที่สิบอาจจะต้องเงี่ยหูฟังว่าพูดหรือร้องว่าอะไร  นับเป็นการค้นพบทางวิทยาศาสตร์ และวิศวกรรมศาสตร์ที่ยิ่งใหญ่ของชาวกรีกโบราณ ปัจจุบันโรงละครแห่งเมืองเอพิดอรัสได้รับการขึ้นทะเบียนให้เป็นมรดกโลกเช่นเดียวกัน นำชม สุสานอะกาแมมนอน The Bee Hive Royal Tomb of Agamemnon  จากนั้น ชม เมืองนาฟลิออน (Nafplion) เป็นเมืองท่าริมทะเล  เมืองนี้เคยเป็นเมืองหลวงแห่งแรกของกรีซมาก่อนในปี ค.ศ. 1829-1834 หลังจากที่ทำสงครามประกาศเอกราชกับประเทศตุรกีเป็นผลสำเร็จ  ก่อนที่จะย้ายเมืองหลวงไปอยู่ที่กรุงเอเธนส์ ด้วยเหตุผลที่ว่าเอเธนส์เคยเป็นเมืองที่รุ่งเรืองมาแต่อดีตกาล  อย่างที่เคยกล่าวแล้วว่า  ประวัติศาสตร์ของกรุงเอเธนส์หายไปเกือบสองพันปี  เพราะหลังจากที่เสื่อมสลายลงก็กลายเป็นเพียงเมืองเล็ก ๆ จนเพิ่งจะมีบทบาทสำคัญในการเป็นเมืองหลวงอีกครั้งเมื่อไม่ถึง 200 ปีที่ผ่านมา  ชมบ้านเรือนสไตล์นีโอคลาสิคเก่าแก่และสวยงาม
เที่ยง   บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารพื้นเมือง
บ่าย   นำท่านเดินทางสู่ เมืองเอพิเธารอส EPIDAUROS เมืองที่ขึ้นชื่อของโรงละครเวทีที่ดีและใหญ่ที่สุดของกรีก  สร้างขึ้นในศตวรรษที่ 4 หลังคริสตกาล ปัจจุบันในช่วงฤดูร้อนจะมีผู้คนมากมายหลั่งไหลมาชม ละครกลาง แจ้ง ที่โรงละครขนาดใหญ่ จุผู้ชมได้ 14,000 ที่นั่ง สร้างขึ้นจากหินอ่อนบริเวณเนินเขา ด้วยการออกแบบระบบป้องกันเสียงสะท้อนซึ่งท่านสามารถได้ยินเสียงอย่างชัดเจนไม่ว่าจะนั่ง ณ จุดไหนของโรงละครก็ตาม จากนั้นนำท่านเดินทางข้าม คลองโครินธ์ ขนาดใหญ่ สูง 78 ม. กว้าง 24 ม. ยาว 6,343 ม. และลึก 12 ม. ที่มีถนนและทางรถไฟเชื่อมแผ่นดินใหญ่ และ คาบสมุทรเพโลพอนนัส มุ่งหน้าสู่ เมืองเอเธนส์ เมืองที่เป็นแหล่งวัฒนธรรมของอารยธรรมตะวันตกประชาธิปไตย  และเคยมีประวัติศาสตร์ที่รุ่งเรืองถึงขีดสุดทางวัฒนธรรม สังคม และการเมืองในศตวรรษที่ 5 ก่อนคริสตกาลเป็นเมืองที่ล้อมรอบไปด้วยป้อมปราการและมีรูปแบบอันทันสมัยใจกลางเมือง และยังคงมีซากปรักหักพังหลงเหลืออยู่ ปัจจุบันเป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุด  นำชม ปลาก้า ย่านเมืองเก่า ผ่านชมวิหารเทพเจ้าซุส และโค้งประตูเฮเดรียน  เข้าสู่ จัตุรัสแทกม่า  แหล่งช้อปปิ้งที่มีชื่อเสียง อิสระตามอัธยาศัย
18.30บริการอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารจีน  หลังอาหารนำท่านเข้าสู่ที่พัก HOTEL TITANIA ระดับ 4 ดาว หรือเทียบเท่า

อาทิตย์ 15 เม.ย. 2555      เอเธนส์  -  ล่องเรืออ่าวซาโรนิค
07.00   บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของที่พัก
08.00   นำท่าน ล่องเรืออ่าวซาโรนิค  ซึ่งเหยียดตัวติดกับชายฝั่ง แอตติก้า    ผ่านชม เกาะเอจีน่า หรือ  เกาะนกพิราบ  ซึ่งมาจาก
ตำนานที่ เทพเจ้าซุส เก็บเทพธิดาพิมพ์เมียลับชื่อเอจีน่าเอาไว้ 700 ปีก่อนคริสตกาล เกาะนี้มีอู่ต่อเรือ กองเรือ และสามารถผลิตเงินเหรียญของกรีกรุ่นแรก ทำให้เกาะนี้มีอำนาจทางการเงินครอบคลุมอาณาบริเวณกว้างตั้งแต่โบราณ  ปัจจุบันยังคงมีคฤหาสน์หรู  จากนั้นนำขึ้นชม  เกาะโพรอส ซึ่งเป็นเกาะสองเกาะ และมีแผ่นดินเชื่อมต่อกันไว้  เกาะหินปูนแห่งนี้เป็นสถานที่ชาวเอเธนส์นิยมมาพักผ่อนในวันหยุดสุดสัปดาห์  ที่นี่มีวิวที่สวยงามมากและปกคลุมด้วยต้นไม้หนาทึบ 
เที่ยง   บริการอาหารกลางวัน บนเรือ  พร้อมดื่มด่ำไปกับบรรยากาศที่สวยงาม
บ่าย   นำท่านล่องเรือสู่ เกาะไฮดรา ที่เต็มไปด้วยท่าเรือที่ทันสมัย  และเป็นที่อยู่อาศัยของชนชาวโบฮีเมียน   ให้เวลาท่านได้เล่นน้ำ หรือเดินเล่น ช้อปปิ้ง เลือกซื้อสินค้าพื้นเมืองนานาชนิด  ของที่ระลึกของฝาก  หรือเก็บภาพสถาปัตยกรรมอันเก่าแก่ที่น่าประทับใจ ตามอัธยาศัย  ได้เวลาสมควร นำท่านเดินทางกลับสู่เมืองเอเธนส์
ค่ำ    บริการอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร หลังอาหาร   หลังอาหารนำท่านเข้าสู่ที่พัก HOTEL TITANIA ระดับ 4 ดาว หรือเทียบเท่า

จันทร์ 16 เม.ย. 2555         เอเธนส์                            
08.00   บริการอาหารเช้าที่โรงแรม   จากนั้นเป็นเวลาอิสระ  จนได้เวลาสมควรนำท่านเดินทางสู่สนามบิน เพื่อเดินทางกลับสู่       กรุงเทพฯ
14.35   เดินทางกลับสู่กรุงเทพ โดยเที่ยวบินที่  EY09 / EY 402  แวะเปลี่ยนเครื่องที่ เมืองอาบูดาบี (20.10 – 20.40)

อังคาร 17 เม.ย. 2555         กรุงเทพฯ                        
07.05    เดินทางกลับถึง ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ  โดยสวัสดิภาพพร้อมความประทับใจ
……………………………………………………………………………………………………
(กำหนดการอาจเปลี่ยนแปลงแก้ไขได้  ทั้งนี้ต้องเพื่อประโยชน์ต่อผู้เดินทางเป็นสำคัญ)

[ontcftqvx]

อัตราค่าบริการ         ท่านละ      94,500.-      บาท   (สำหรับสมาชิกวีไอพี 10 ท่านเท่านั้น)
            พักเดี่ยว เพิ่ม     9,000.-      บาท

อัตรานี้รวม
- ค่าตั๋วเครื่องบิน ไป-กลับ ชั้นทัศนาจร ตามรายการ      - ค่าวีซ่า
- ค่าภาษีสนามบินทุกแห่ง               - ค่าที่พัก ห้องละ 2 ท่าน ตามรายการ
- ค่าพาหนะนำเที่ยวตามรายการ            - ค่าเข้าชมสถานที่ตามรายการ
- ค่าอาหารทุกมื้อตามรายการ            - ค่าประกันภัยการเดินทาง วงเงินท่านละ 1,000,000.-บาท
- ค่าทิปมัคคุเทศก์ท้องถิ่น และคนขับรถ

อัตรานี้ไม่รวม
- ค่าใช้จ่ายอื่นๆนอกเหนือจากที่ระบุในรายการ เช่น ค่าโทรศัพท์, ค่ามินิบาร์ในห้องพัก,ค่าทิปพนักงานโรงแรม ฯลฯ
- ค่าภาษีหัก ณ ที่จ่าย 3%   และภาษีมูลค่าเพิ่ม 7%   - ค่าระวางน้ำหนักกระเป๋า เกิน 20 กิโลกรัม

หลักฐานการประกอบวีซ่า  ยื่นสถานฑูตกรีก
1.หนังสือเดินทางที่มีอายุการใช้งานเหลือไม่ต่ำกว่า 6 เดือน
2.รูปถ่าย 1 นิ้วครึ่ง หรือ 2 นิ้ว จำนวน 2 ใบ
3.สำเนาบัตรประชาชน และสำเนาทะเบียนบ้าน อย่างละ 1 ชุด และ สำเนาทะเบียนสมรส / ใบหย่า (ถ้ามี)
4.หลักฐานแสดงฐานะการทำงาน 1 ชุด
   เจ้าของกิจการ  สำเนาทะเบียนการค้า , หนังสือรับรองบริษัท คัดสำเนาไม่เกิน 3 เดือน พร้อมประทับตรายางบริษัท
   ข้าราชการ    หนังสือรับรองจากต้นสังกัด ระบุวันเริ่มทำงาน ตำแหน่ง เงินเดือน อายุงาน เป็นภาษาอังกฤษ
   

   พนักงาน      หลักฐานรับรองการทำงาน ระบุวันเริ่มทำงาน ตำแหน่ง เงินเดือน อายุงาน  เป็นภาษาอังกฤษ พร้อม ถ่ายสำเนา บัตรประกันสังคม ด้านหน้าและหลัง
   นักศึกษา       หนังสือรับรองการศึกษาจากสถาบัน เป็นภาษาอังกฤษ
5. จดหมายรับรองบัญชีเงินฝากออมทรัพย์ หรือ ฝากประจำ จากธนาคาร (BANK CERTIFICATE) โดยระบุชื่อผู้เดินทาง
    พร้อมทั้ง ถ่ายสำเนาสมุดเงินฝาก ย้อนหลังอย่างน้อย 6 เดือน ทุกหน้า (สถานฑูตไม่พิจารณาบัญชีกระแสฯ)
6. เด็ก สำเนาสูติบัตร 1 ชุด และหนังสือรับรองจากโรงเรียน เป็นภาษาอังกฤษ 1 ชุด
บริษัทให้บริการยื่นวีซ่าให้เป็นหมู่คณะ  เอกสารต้องพร้อมสมบรูณ์ก่อนการเดินทาง อย่างน้อย 3 สัปดาห์