http://topicstock.pantip.com/lumpini/topicstock/2011/10/L11206164/L11206164.htmlhttp://touch.exteen.com/blog/dekwad/20081125/entry-2http://fotohaya.multiply.com/journal/item/63/63. . . . . . REVIEW : สุขภาพ " คุณเป็นภูมิแพ้ จริงๆ รึเปล่า ?? " ( ผ่าตัด Deviated Nasal Septum ) . . . . . . . .
.
.
.
สวัสดีครับ ^^
ตัวผมเอง เพิ่งเคยได้มีประสบการณ์ผ่าตัด เป็นครั้งแรกในชีวิต เมื่อเดือนที่ผ่านมานี้เอง
คิดว่า อาการที่ผมเป็น .. และ ข้อมูล / ประสบการณ์ ในการผ่าตัดครั้งนี้ น่าจะพอเป็นประโยชน์ และพอจะเป็นข้อมูล เบื้องต้นได้
ให้กับเพื่อนๆ คนอื่นๆ ที่มีปัญหาเดียวกัน และกำลังตัดสินใจ ที่จะผ่าตัด
ขอเริ่มจาก ค่อยๆ เล่าความเป็นมาของอาการ และความเข้าใจผิด อันยาวนานก่อนนะครับ ก่อนจะมาลงท้ายด้วยการรักษา ^^
.
.
.
" เป็นภูมิแพ้ แน่ๆ .. ชัวร์ "
เป็นความเข้าใจผิดของผมเองมาโดยตลอด .. ว่าตัวเองต้องเป็นภูมิแพ้แน่ๆ
ทั้งๆ ที่ไม่เคยไปหาหมอ ด้วยอาการนี้ .. เพื่อเข้ารับการตรวจ มาก่อนเลย
.
.
ระยะเวลา ประมาณ 10 ปีมานี้ ผมมีอาการ หายใจไม่ค่อยสะดวก
โดยปกติแล้ว ..จะหายใจผ่านรูจมูก .. เพียงข้างเดียวเกือบตลอดเวลา ส่วนจมูกอีกข้าง จะรู้สึกตันๆ
และหายใจแทบไม่ออกเลย หรือออกมาน้อยมาก
เวลาปิดจมูกข้างที่หายใจได้ .. จะรู้เลยว่า อีกข้างนึงมันตันจนหายใจแทบไม่ออกเลย
.
.
อาจจะมีสลับข้างกันตันบ้าง .. แต่นานๆ ที ที่จะหายใจได้พร้อมๆ กัน 2 ข้าง
.
.
ถ้าถามว่า ... รู้ตัวว่าผิดปกติมั้ย ? ก็คงตอบได้ว่า รู้ตัว แต่ .. ละเลย
เนื่องจาก ... ลองถามๆ เพื่อนๆ คนรู้จักรอบข้าง ... ก็มีหลายๆ คน ที่มีอาการเดียวกันนี้ คือ หายใจได้ข้างเดียว
บวกกับ .. คุณแม่ผม ... ท่านมีโรคประจำตัวคือภูมิแพ้ ... ผมก็เลยฟันธง ว่า ตัวเองเป็นภูมิแพ้แน่ๆ ชัวร์
.
.
นอกจากหายใจไม่สะดวกแล้ว ..
ผมยังรู้สึกว่า ตัวเองเหนื่อยง่ายกว่าคนอื่นๆ ... ( ส่วนนึง ไม่ค่อยได้ออกกำลังกายด้วย )
เวลาทำอะไรที่ต้องใช้พลังงานเยอะหน่อย จะเหนื่อย และหายใจทางปาก เนื่องจากหายใจไม่ทัน
ในขณะที่เทียบ กันกับแฟนสาว ซึ่งตัวเล็กกว่ามาก .. เค้ายังดูชิลๆ หายใจทางจมูกได้ปกติ
แต่ผมก็ยังไม่วาย .... ได้แต่คิด เข้าข้างตัวเองว่า .. ถ้าวันนึง ชั้นออกกำลังกาย ร่างกายแข็งแรง อาการพวกนี้ ก็คงหายไปเองแหละ ..
.
.
จนมาถึงจุดเปลี่ยน .. ที่ทำให้ผม เริ่มกลัวขึ้นมานิดๆ คือ
อาการเลือดออกมาจาก จมูก .. ( คล้ายๆ เลือดกำเดาไหล )
.
.
ช่วงระยะหลัง ๆ .. ผมมีอาการเลือดออกจมูก ค่อนข้างบ่อย .. ( ไม่เจ็บ ไม่รู้สึกอะไร )
แต่ .. มันบ่อยเสียจน น่ากลัวว่า ไม่ใช่ เลือดกำเดาไหล ซะแล้วล่ะ
ความนอย บังเกิด .. ผม Search หาข้อมูลดูตามอาการ ..
.
.
เช็ดเป็ด !! ... หรือกุเป็นมะเร็งโพรงจมูกวะ !!! ( คิดในแง่ร้ายสุดไว้ก่อน 55 )
.
.
นั่นแหละครับ ... ต้องคิดว่าเป็นอะไรหนักๆ ( ที่ทำให้ตายได้ซะก่อน ) ถึงจะพาตัวเองไปหาหมอได้ ( อย่าทำตามเลยนะ )
.
.
พอดีว่าแฟนผม เป็นเภสัชกรอยู่ที่ รพ.จุฬา
ก็เลยเลือกที่จะรักษาที่นั่น .. เพราะช่วงที่ admit นอนอยู่โรงพยาบาล จะได้สะดวกเรื่องคนดูแลหน่อย
บวกกับด้วยความเป็นคนใน .. ก็พอจะรู้จักคุณหมอ พยาบาล เจ้าหน้าที่แผนกต่างๆ อยู่บ้าง ..
.
.
หัวหน้าของแฟนผมเอง ก็ค่อนข้างกว้างขวาง รู้จักอาจารย์เก่งๆ เยอะ
แล้วแกก็คุ้นเคยกันกับผมอยู่ .. แกก็เลยแนะนำ และพาไปฝากฝัง กับอาจารย์หมอที่เชี่ยวชาญด้านนี้ให้ .. เป็นสิ่งที่ทำให้ผมรู้สึกอบอุ่นใจ เป็นพิเศษ ^^
.
.
จากคุณ : A r t F u l l Y
เขียนเมื่อ : 17 ต.ค. 54 10:56:53
ความคิดเห็นที่ 1
.
.
.
เมื่อเข้ารับการตรวจ .. ผมไม่ได้เป็นภูมิแพ้ .. แต่เป็น " Deviated Nasal Septum " ( ผนังกั้นช่องจมูกคด )
ซึ่งเป็นอะไรที่ .. ผมไม่เคยได้ยิน หรือรู้จักมาก่อนเลย .. ลอง Search หาข้อมูลดู ..
ก็มีไม่มากเท่าไหร่ ( ถึงเอามาตั้งกระทู้เนี่ยแหละ )
.
.
ก็เลยเกิดแรงบันดาลใจ ในการตั้งกระทู้ Review ซะเลย ..
ห้องอื่นเค้า Review กันมากมาย ห้องนี้ ก็น่าจะมี รีวิว เรื่องเกี่ยวกับสุขภาพ ได้บ้าง อิอิ
ข้อมูล .. เกี่ยวกับ อาการนี้ คือ
.
.
.
ผนังกั้นช่องจมูกคด (Deviated Nasal Septum)
รศ.นพ.ปารยะ อาศนะเสน
สาขาวิชาโรคจมูกและโรคภูมิแพ้
ภาควิชาโสต นาสิก ลาริงซ์วิทยา
Faculty of Medicine Siriraj Hospital
คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล
ผนังกั้นช่องจมูกคด เป็นภาวะที่พบได้บ่อย อาจจะทำให้มีอาการหรือไม่มีอาการทางจมูกก็ได้ ประมาณร้อยละ 90 ของผนังกั้นช่องจมูกของคนปกติมักไม่ตรง ถ้าผนังกั้นช่องจมูกที่คดนั้นไม่ได้ทำให้เกิดอาการอะไร ก็ไม่จำเป็นต้องรับการรักษา
สาเหตุ
สาเหตุที่ทำให้ผนังกั้นช่องจมูกคด ได้แก่ ความผิดปกติของการเจริญของผนังกั้นช่องจมูกแต่กำเนิด หรือ เกิดจากอุบัติเหตุได้รับแรงกระแทก
อาการ
1. คัดจมูก ผู้ป่วยมักมีอาการคัดจมูกข้างที่มีผนังกั้นช่องจมูกคดหรือข้างที่แคบ อาจมีอาการคัดจมูกชัดเจนขึ้นเมื่อเป็นหวัด หรือเยื่อบุจมูกบวมอักเสบ ผู้ป่วยบางรายอาจมีอาการคัดจมูกข้างตรงข้ามกับข้างที่มีผนังกั้นช่องจมูกคดหรือข้างที่กว้างได้ เนื่องจากเยื่อบุจมูกข้างดังกล่าวนั้นมีการบวมขึ้นมาเพื่อไม่ให้อากาศไหลผ่านมากและเร็วเกินไป
2. เลือดกำเดาไหล ผู้ป่วยมักมีเลือดกำเดาไหลข้างที่มีผนังกั้นช่องจมูกคดหรือข้างที่แคบ เนื่องจากข้างที่แคบนั้น มีลมหายใจหรืออากาศผ่านเข้า-ออกมากและเร็วกว่า ทำให้เยื่อบุจมูกแห้งมาก ทำให้เกิดสะเก็ดและมีเลือดออกได้ง่าย
3. อาการปวด ถ้าผนังกั้นช่องจมูกที่คด ไปสัมผัสกับเยื่อบุจมูกอีกฝั่ง อาจกดทับเส้นประสาทรับความรู้สึก ทำให้เกิดอาการปวดจมูกข้างนั้นได้
อาการแสดง และการตรวจพิเศษ
ถ้าใช้ไม้กดลิ้นที่เป็นโลหะมันวาวมาวางที่ด้านหน้าของจมูก แล้วให้ผู้ป่วยหายใจเข้า-ออก เพื่อดูขนาดของลมหายใจบนไม้กดลิ้น อาจพบว่าลมหายใจข้างที่ผนังกั้นช่องจมูกคดไปนั้น มีขนาดเล็กกว่าอีกข้าง การตรวจโพรงจมูกทางด้านหน้าจะเห็นว่ามีผนังกั้นช่องจมูกคดไปด้านใดด้านหนึ่งได้ การส่องกล้องตรวจในโพรงจมูกอาจช่วยวินิจฉัยแยกโรคจากโรคอื่นๆที่ทำให้มีอาการคัดจมูก หรือตรวจส่วนที่คดตอนกลางของโพรงจมูกซึ่งไม่อาจเห็นชัดด้วยการตรวจด้วยตาเปล่า นอกจากนั้น อาจใช้เครื่องมือตรวจวัดความต้านทานของโพรงจมูกว่ามีอาการอุดตันของโพรงจมูกหรือไม่ เป็นข้างใดมากกว่ากัน
การรักษา
1. การใช้ยาหดหลอดเลือดชนิดรับประทาน และยาสตีรอยด์ชนิดพ่นจมูก อาจลองใช้ยาพ่น สตีรอยด์ และรับประทานยาหดหลอดเลือดก่อน อาจทำให้อาการคัดจมูกดีขึ้นได้ เนื่องจากยาทั้ง 2 ชนิดจะทำให้เยื่อบุจมูกยุบบวมได้
2. การผ่าตัด มักจะทำในรายที่ผนังกั้นช่องจมูกคด ทำให้เกิดอาการคัดจมูก และได้ลองใช้ยาพ่นสตีรอยด์ และยาหดหลอดเลือดชนิดรับประทานแล้วอาการคัดจมูกไม่ดีขึ้น หรือผนังกั้นช่องจมูกคดทำให้เกิดโรคแทรกซ้อน การผ่าตัดจะเป็นการแก้ไขผนังกั้นช่องจมูกที่คดให้ตรง
โรคแทรกซ้อน
1. ริดสีดวงจมูก เนื่องจากอากาศผ่านข้างที่ผนังกั้นช่องจมูกคดหรือข้างที่แคบด้วยความเร็วและแรงกว่าอีกด้าน จะทำให้เยื่อบุจมูกข้างดังกล่าวบวมได้ง่าย และอาจเกิดเป็นริดสีดวงจมูกได้
2. ไซนัสอักเสบ ผนังกั้นช่องจมูกที่คดอาจทำให้การไหลเวียนของอากาศและสารคัดหลั่งของไซนัสน้อยลง อาจทำให้เกิดโรคไซนัสอักเสบได้ง่าย ในรายที่มีผนังกั้นช่องจมูกคดและให้การรักษาไซนัสอักเสบแล้วไม่ดีขึ้น หรือเป็นๆ หายๆ อาจต้องพิจารณาผ่าตัดแก้ไขผนังกั้นช่องจมูกที่คดนั้นด้วย
3. โรคของหูชั้นกลาง เนื่องจากเยื่อบุจมูกข้างที่มีผนังกั้นช่องจมูกคดหรือข้างที่แคบ จะบวมได้ง่าย อาจส่งผลไปยังรูเปิดของท่อยูสเตเชียนซึ่งเชื่อมระหว่างหูชั้นกลางและโพรงหลังจมูกได้ เนื่องจากเยื่อบุจมูกและหลังโพรงจมูกต่อถึงกัน ทำให้เยื่อบุรอบรูเปิดของท่อยูสเตเชียนบวม ทำให้ท่อยูสเตเชียนทำงานผิดปกติ อาจมีอาการหูอื้อ เสียงดังในหูข้างเดียวกับที่มีผนังกั้นช่องจมูกคดได้
- - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -
** เครดิต **
รศ.นพ.ปารยะ อาศนะเสน
สาขาวิชาโรคจมูกและโรคภูมิแพ้
ภาควิชาโสต นาสิก ลาริงซ์วิทยา
Faculty of Medicine Siriraj Hospital
คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล
Link ที่มา
http://www.si.mahidol.ac.th/sidoctor/e-pl/articledetail.asp?id=445- - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -
.
.
จากคุณ : A r t F u l l Y
เขียนเมื่อ : 17 ต.ค. 54 11:02:17
ความคิดเห็นที่ 2
.
.
.
สำหรับการรักษาของผม อาจารย์ท่านบอกว่า ต้องใช้ทั้งการผ่าตัด และจี้ด้วยวิทยุ ( ทำครั้งเดียวไปด้วยกัน )
เมื่อรู้ตัวว่า .. ตัวเองเป็นอะไร และต้องรักษา ยังไง ..
ผมใช้เวลาทำใจ ประมาณ 2 - 3 เดือน ถึงทำนัดหมอ เพื่อเข้ารับการผ่าตัด
.
.
ก่อนหน้านั้น .. ผม Search หาข้อมูลอีกแล้ว ... แล้วก็โคตรจะนอย .. เพราะกลัวไปหมด กลัวเจ็บ กลัวโน่นนี่ .. เห็น คลิปต่างประเทศตอนที่ผ่าจะๆ เห็นตอน เอาท่อออก
แล้ว โค ตะ ระ เครียดโฮก ....
แบบว่า ไม่เคยผ่าตัดอะไรมาก่อน ..
.
.
ที่เจ็บปวดที่สุดในชีวิต ก็คือ ตอน ม.ปลาย ก่อนจะดัดฟัน ต้องผ่าฟันคุด 4 ซี่ นี่แหละประสบการณ์ก่อนหน้านี้ของผม ><"
.
.
ก่อนจะทำนัดเพื่อผ่าตัด ต้องมาตรวจร่างกาย เช็คสุขภาพ ที่ รพ. ก่อน เพื่อดูความพร้อมของร่างกาย ก่อนเข้ารับการผ่าตัด ..
ก็ไม่มีอะไรมากครับ มี x-ray ปอด , ตรวจเลือด , ตรวจหา HIV , ตรวจฉี่ , ตรวจการทำงานของหัวใจ ประมาณนี้ ..
เมื่อได้ผลทั้งหมด .. ก็ นำไปให้คุณหมอเจ้าของไข้ ที่จะผ่าตัดให้เรา .. ตรวจเช็คผลต่างๆ ดู ถ้าไม่มีปัญหาอะไร .. ก็นัดวันผ่าตัดได้เลย
ในส่วนของผม ก็เรียบร้อยดี .. คุณหมอแนะนำว่า " อ้วนนิดๆ นะเรา ลดน้ำหนักก็ดีนะ คอเลสเตอรอล เริ่มมาแล้ว " ^^
.
.
ปล. นอกเรื่องนิด .. เกิดมาไม่เคยตรวจ HIV มาก่อนเลยในชีวิต .. เพราะไม่ได้เสี่ยงอะไร
แต่ทำไม๊ ทำไม .. ตอน คุณหมอ แกะกระดาษที่เป็นผล HIV มาดู .. หัวใจจะวายตาย ลุ้นแทบตาย ( จะลุ้นทำไมเนี่ย )
คิดว่าหลายๆ คน ก็คงเป็นนะ .. ไม่เสี่ยง แต่มันก็เสียว ๆ อยู่
.
.
จากคุณ : A r t F u l l Y
เขียนเมื่อ : 17 ต.ค. 54 11:22:20
ความคิดเห็นที่ 3
.
.
.
เมื่อถึงวัน ..
.
.
.
ในการผ่าตัด .. เราต้อง admit ที่ รพ. ล่วงหน้า 1 คืน เพื่อเตรียมความพร้อมต่างๆ
ปัญหาแรกของผมคือ .. ณ วันนั้น ห้องพิเศษ ที่ยังว่างอยู่คือ ห้องพิเศษ 4 เตียง ><" ( ตึกจุมภฏ )
ซึ่งผมเอง เคยเห็นสภาพห้องมาบ้างแล้ว .. เนื่องจากเป็นตึกเก่า เลยค่อนข้างทรุดโทรมนึดนึง ..
.
.
ปกติผมเคยแต่ admit รพ.เอกชน ครั้งนี้ มานอน รพ.รัฐ แต่ก็ไม่ได้คาดหวัง เรื่องความสะดวกสบาย หรือบริการอันดีเยี่ยมอะไรอยู่แล้ว
ยอมรับว่า อาจจะเป็นคนเรื่องมาก แต่ไม่ได้กระแดะนะ แต่ผมว่า ... ห้อง 4 เตียง ผมอยู่ไม่ได้แน่ ---__---"
.
.
ที่สำคัญ พอเป็นห้อง 4 เตียง ทำให้ รพ. ไม่อนุญาต ให้ญาติ มานอนเฝ้าไข้ได้
ซึ่งตรงนี้ สำคัญกับผมมาก .. เพราะผมรู้ตัวว่า .. เวลาผมเจ็บป่วย
ผมโคตรจะงอแง ง๊องแง๊ง .. เรื่องมาก สารพัด .. ถึงต้องการ คนมาเฝ้าเนี่ยแหละ ..
.
.
แต่แล้วก็ผ่านไปได้ด้วยดี .. เนื่องจาก มีคนกำลังจะออกวันนี้พอดี .. แต่ต้องรอนิดนึง ..
จนในที่สุด .. ก็ได้ห้องพิเศษเดี่ยว ที่ตึก ภปร ซึ่งค่อนข้างใหม่ ( ห้องที่ดูใหม่สุด น่าจะเป็นตึก สก )
.
.
เมื่อได้ห้องแล้ว .. สักพัก ก็มีพี่พยาบาล มาแนะนำเรื่องต่างๆ ..
แล้วก็มีคุณหมอ dent มาคุยด้วย มาถามประวัติต่างๆ พร้อมนำเอกสาร ยินยอมต่างๆ มาให้เซ็นต์ ^^
มีคุณหมอสาวๆ มาคุยด้วยถึง 3 คนเลยทีเดียว ( น่ารักทุกคน 555 )
คุณหมอก็ขอส่องจมูกดู .. แล้วก็ ควัก iphone เพื่อขอถ่ายรูปจมูก ( ภายนอก ) เก็บไว้
.
.
คืนก่อนผ่าตัด พยาบาล จะตัดขนจมูกให้เกลี้ยงเกลา ด้วยกรรไกร ( ซึ่งก็ไม่เกลี้ยงเท่าไหร่ 55 )
แต่ไม่ต้องห่วง ในห้องผ่าตัด คุณหมอจะตัดให้อีกทีครับ ด้วยเครื่องมือที่เฉพาะกว่า ตัดได้เกลี้ยงกว่า
นอกจากนั้น ก็ทำใจให้สบาย พยายามพักผ่อน นอนให้หลับ .. พยาบาลบอกว่า ถ้านอนไม่หลับให้บอก จะได้ให้ยา .. แล้วก็ ห้ามกินอะไรหลังเที่ยงคืน
สำหรับผม .. คืนนั้น ไม่กลัว ไม่ตื่นเต้นนะ รู้สึก OK เลยทีเดียว เพราะทำใจมานานแล้วเหมือนกัน
.
.
ผมไม่แน่ใจว่า .. ผนังกั้นช่องจมูกคด โดยปกติ .. จะมองเห็นความผิดปกติ จากภายนอกได้เลยหรือไม่ ... แต่ในกรณีของผม ภายนอก จมูกก็ตรงเป็นปกติดีครับ
( จากรูป ) อันนี้สมัยวุ่นรุ่น
.
.