Author Topic: การชาร์จแบต iphone ที่ถูกต้อง  (Read 7095 times)

mr_a

  • Guest
พอดีกระทู้นี้มันเริ่มมาจากการที่ผมไปเจอบทความที่นี่ครับhttp://iphone.exteen.com/20071023/charge-battery-iphone
จริงๆ ผมเจอบทความนี้นานแล้วหล่ะ แต่ของกินมันบังตา เอาว่าวันนี้มันยังไม่สายครับ
แบตของ iphone เดี๋ยวนี้เป็น Li-ion ครับ ไม่ใช่ Ni-Cad ครับ
ซึ่งการชาร์จแบบ Ni-Cad อาจเป็นแบบที่เราคุ้นกันคือนับเป็น cycle count
เสียบทีก็นับเป็นหนึ่งครั้ง ยิ่งใช้แบตหมดเยอะเท่าไหร่ก็ยิ่งคุ้มเท่านั้น
แถมยังยืดอายุแบตให้ด้วย ซึ่งเดี๋ยวนี้น้อยอุปกรณ์มากๆ ที่จะให้ Ni-Cad หรือ NiMH



สรุปที่เขียนเอ็นทรีนี้ จะได้ชาร์จแบตแบบถูกต้อง (ถ้าขี้เกียจอ่านเนื้อหา อ่านสรุปข้างล่างก็พอ)
แต่กับ Li-ion เป็นอะไรที่ต่างไปครับ
พอดีผมเคย discuss ไว้แล้วในบทความของ @fordantitrust ที่นี่ครับhttp://www.thaithinkpad.com/forum/index.php?topic=12.0
ดังนี้ครับ (ขออนุญาติ quote และ copy ข้อความบางส่วนนะครับ)
"แบตเตอร์รี่แบบ Li-Ion และรวมถึงแบตฯรุ่นใหม่ Li-Polymer ด้วย นั้นจะ นับรอบการชาร์จ (Cycle) ของ แบตฯ ของตัวมันเอง ซึ่งรอบการชาร์จของแบต Li-Ion คือ ชาร์จรวมกันแล้ว 85 - 95 % ขึ้นไป (ขึ้นอยู่กับผู้ผลิตด้วย) ถึงจะนับเป็น 1 รอบ ไม่ใช่จำนวนครั้งในการชาร์จ อย่างที่เข้าใจกัน ตัวอย่าง เช่น คุณชาร์จไปครั้งแรก ใช้ไปแค่ 20% ซึ่งแบตของคุณในตอนนั้นเหลือ 80% คุณก็ชาร์จไฟเข้าไปใหม่ คุณจะสามารถทำอย่างงี้ไป 5 ครั้ง ถึงจะ นับ 1 รอบ การชาร์จ
"แล้วอีกอย่างถึงแม้แบตเราจะไม่ได้ทำการชาร์จเลยเป็นเวลานานก็ตามแบตก็จะเสื่อมไปเองภายในเวลา 3 - 5 ปีครับ อันเนื่องมากจากการทำงานของสารเคมีภายในที่หมดคุณภาพไปครับ หรืออาจจะเป็นเพราะข้อจำกัดของสารประกอบและกรรมวิธีของมันเองมากกว่าครับ อันนี้ผมไม่ขอตอบแน่ชัดเพราะว่ายังไม่มีรายงานใดๆ ออกมาครับจึงสรุปได้ไม่เต็มปากครับ แต่ที่สังเกตก็เป็นเช่นนั้นครับ ใช้ไม่ใช้ก็มีอายุเท่ากันแต่ใช้แล้วเนี่ยมันจะสั้นกว่า แต่ก็ไม่ต่างกันมากนักขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายๆ อย่างเช่น
การใช้เครื่องชาร์จที่ได้รับไฟฟ้าที่นิ่งๆ คือการได้รับไฟฟ้าที่ไม่มีไฟตกไฟเกินไฟกระฉาก ครับ อันนี้มีผล ต่อการชาร์จไฟที่มีคุณภาพ 10 - 20% ครับ
อุณหภูมิในระหว่างการชาร์จ หรือประจุไฟควรประจุที่อุณภูมิปกติ และไม่มีความชื่นมากนักเพราะจะทำให้การถ่ายเทความร้อนทำได้ยากขึ้น
ขั้วแบตและขั้วส่วนของเสียบสายชาร์จนั้นต้องมีการส่งผ่านไฟที่สม่ำเสมอ เพราะว่าทำให้การประจุไฟหรือการชาร์จเป็นไปอย่างราบรื่นและได้ผลที่ดี
การหลีกเลี่ยงการทำแบตตกพื้นเพราะจะทำให้หน้าสัมผัสภายในเสียหรือหลุด ได้โดยที่เราไม่รู้ รวมถึงทำให้สารประกอบต่างๆ รั้วไหลได้ (เป็นต้นเหตุให้ระเบิดได้)
ควรใช้แบตอย่างถูกต้องตามแบบสารประกอบนั้นๆ เช่น NiCd ให้ใช้หมดก่อนแล้วชาร์จ NiMH , Li-ion , Li-Poly ลักษณะการใช้งานคล้ายมาก จะชาร์จตอนไหนก็ชาร์จเพียงแต่ NiMH นั้นยังมี memory effect ซึ่ง NiMH นั้นเป็นแบตที่เป็นต้นแบบของ Li-ion เลยก็ว่าได้เพราะว่าเอาแก้ไขส่วนของ memory effect ของ NiCD โดยเฉพาะครับ แต่ว่า Li-ion ทำได้ดีกว่า ส่วน Li-ion กับ Li-Poly นั้นแทบจะไม่มีหรือไม่มีเลย
การชาร์จในตอนแรกที่ได้รับแบตมานั้น NiCD , NI-HM นั้นใช้ชาร์จ 12 - 14 ชม. 3 ครั้งทุกครั้งใช้แบตให้หมด เพื่อเป้นการกระตุ้นธาตุ Ni ครับ ส่วน Li-ion และ Li-Poly นั้นไม่ต้องครับ แค่ทำให้มันเต็มหรือชัวช์ๆ ก็ 3 ครั้งแรกชาร์จสัก 6 ชม. ก็พอครับ แต่ Li-ion อย่าทำให้แบตหมดเกลี้ยงเป็นอันขาดนะครับ เพราะจะทำให้แบตเสียได้ ส่วน Li-Poly นั้นแก้ไขส่วนนี้มาแล้ว และเป็นแบตที่มีน้ำหนักเบากว่า Li-ion ครับ
หวังว่าคงเข้าใจพอสมควรแล้วนะครับ ลองหาอ่านได้จากหนังสือ แบตเตอร์รี่ของ Se-ed ครับผมจำได้ว่าการ สร้าง NiMH นั้นสร้างมาเพื่อลบจุดด้อยเรื่อง memory effect ของ NiCD ครับแต่ว่าไม่มากพอซึ่งมีบ้างแต่ไม่มีเท่าครับแต่ได้ความจุที่มากกว่า NiCD มากเลยนั้นคือสิ่งที่ดีของ NiMH ที่ดี แต่ด้อยตรงที่ NiCD นั้นคายประจุได้สม่ำเสมอและเที่ยงตรงมากที่สุดในแบตที่ชาร์จใหม่ได้ครับ …………… ทุกอย่างมีข้อดีและข้อเสียของมันครับ"

รวมทั้งเท่าที่ผมรวมข้อมูลจาก http://www.apple.com/batteries/
"Standard Charging

Most lithium-ion polymer batteries use a fast charge to charge your device to 80% battery capacity, then switch to trickle charging. That’s about two hours of charge time to power an iPod to 80% capacity, then another two hours to fully charge it, if you are not using the iPod while charging. You can charge all lithium-ion batteries a large but finite number of times, as defined by charge cycle.
Charge cycles



Charge Cycle. Using and recharging 100% of battery capacity equals one full charge cycle.

A charge cycle means using all of the battery’s power, but that doesn’t necessarily mean a single charge. For instance, you could listen to your iPod for a few hours one day, using half its power, and then recharge it fully. If you did the same thing the next day, it would count as one charge cycle, not two, so you may take several days to complete a cycle. Each time you complete a charge cycle, it diminishes battery capacity slightly, but you can put notebook, iPod, and iPhone batteries through many charge cycles before they will only hold 80% of original battery capacity. As with other rechargeable batteries, you may eventually need to replace your battery. "
ถ้าแปลภาษาอังกฤษไม่ออกก็ไปอ่านข้างบนครับ คล้ายๆ กัน


สรุป
ไปพลิกดูว่าเป็นแบตแบบไหน ถ้าเป็น Li-ion ก็ค่อยอ่าน
ชาร์จแบตไปเหอะครับ เหลือ 70-80% ก็ชาร์จได้ครับ ไม่ต้องรอให้ลดเหลือ 5% ยิ่งต่ำไปมันไม่ดีครับ
เครื่องชาร์จก็เป็นอุปกรณ์สำคัญที่จะดูแลแบตเราครับ
อายุแบตอยู่ประมาณ 3-5 ปีโดยเฉลี่ยตามการดูแลตามข้อมูลเบื้องต้น
ไม่ควรให้แบตนิ่งโดยไม่มีไฟผ่านเป็นเวลานานๆ ครับ แบตพวกนี้ต้องการการกระตุ้นครับ
บทความนี้รวมถึงแบต notebook ที่เป็น Li-ion ด้วยครับ
การซื้ออุปกรณ์มือสองควรสอบถามเรื่องแบตด้วย ทั้งเรื่อง cycle count และอายุของแบต ส่วนอุปกรณ์มือหนึ่งควรถามเรื่องการประกันของแบตด้วย ซึ่งบางรายอาจให้ระยะเวลาประกันของแบตไม่เท่ากับตัวเครื่อง
อย่าทำแบตตกหรือกระแทกแรงๆ

วันนี้ไม่มีของกินจริงๆ ครับ ;P
เครดิต tongkatsu http://tongkatsu.exteen.com/20091130/091130-iphone
เขียนโดย wisdom mobile ที่ 20:44 ส่งอีเมลข้อมูลนี้BlogThis!แบ่งปันไปที่ Twitterแบ่งปันไปที่ Facebookแบ่งปันไปที่ Google Buzz