มัลดีฟส์ ขึ้นชื่อว่าเป็นเกาะสวยกลางทะเล ที่มีนักท่องเที่ยวใฝ่ฝันว่าอยากไปเยือนมากที่สุดแห่งหนึ่งของโลก! แต่สำหรับนักเดินทางที่มีเงินเก็บในกระเป๋าน้อย แต่อยากสัมผัสบรรยากาศแบบมัลดีฟส์กับเขาบ้าง ที่มีเมืองไทยของเราก็มีสถานที่ท่องเที่ยวหลายแห่งที่สวยงามจนได้รับการขนามนามว่า "มัลดีฟส์เมืองไทย" แถมยังใช้เงินในการเดินทางไปเที่ยวไม่ถึงครึ่งของมัลดีฟส์จริงๆ วันนี้ใครที่กำลังฝันอยากไปเที่ยวมัลดีฟส์ สนุก! ท่องเที่ยว ได้รวบรวมมาเอาใจให้คุณไปเที่ยวหน้าร้อนกันแล้ว
1. เกาะหลีเป๊ะ จ.สตูล หนึ่งในมัลดีฟส์เมืองไทย ที่มีนักท่องเที่ยวไปเยือนปีละไม่ต่ำกว่าสองแสนคน เกาะหลีเป๊ะ มีลักษณะเป็นเกาะที่ราบเรียบคล้ายกระดาษ และชื่อนี้มาจากภาษาท้องถิ่นชาวเล (ชนเผ่าอุรักลาโว้ย) บนเกาะ ซึ่งส่วนใหญ่ทำอาชีพประมง รอบเกาะเต็มไปด้วยปะการังอันสมบูรณ์ มีเวิ้งอ่าวที่สวยงาม หาดทรายขาวละเอียด เป็นศูนย์กลางของความสะดวกสบายมากมายทั้งที่พัก ที่กิน ที่เที่ยวยามค่ำคืนครบครัน กิจกรรมที่นิยมบนเกาะหลีเป๊ะ ได้แก่ การดำผิวน้ำ และการดำน้ำลึก เพราะเพียงแค่ออกจากชายหาดก็สามารถสนุกกับการดำผิวน้ำได้ทันที น้ำใส หาดทรายขาว เวลาน้ำลงสามารถเดินเล่นดูปลาการ์ตูนและดอกไม้ทะเลได้สบาย บนเกาะหลีเป๊ะแห่งนี้จะมีชายหาด อยู่ 3 แห่ง คือ หาดพัทยา (บันดาหยา) ตั้งอยู่ทางทิศตะวันตกของเกาะ เป็นหาดที่ได้รับความนิยมมากที่สุด ชายหาดยาวเป็นโค้งเว้ารูปครึ่งวงกลม หาดขาวสะอาดตลอดแนว และยังเป็นจุดชมพระอาทิตย์ตกที่สวยงามที่สุด เป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติมาก มีความหลากหลายทั้งที่พัก อาหาร และเครื่องดื่ม ต่อมาคือ หาดซันไรส์ ตั้งอยู่บริเวณด้านหน้าเกาะหลีเป๊ะ ร่มรื่นไปด้วยทิวมะพร้าวน้อยใหญ่ที่ขึ้นเรียงรายตลอดแนวหาด สามารถชมพระอาทิตย์ขึ้นได้สวยงาม มองเห็นหน้าเกาะอาดังได้อย่างดี มีบ้านเรือนชาวเลอาศัยอยู่กระจัดกระจายไม่หนาแน่น และมีรีสอร์ทที่พักริมหาดให้เลือกบริการพอสมควร สุดท้ายคือ หาดซันเซ็ท เป็นหาดที่มีขนาดเล็กที่สุดและมีที่พักอยู่น้อยกว่าหาดอื่นๆ เน้นบรรยากาศความเงียบสงบเป็นส่วนตัว
2. มัลดีฟเมืองกาญจน์ เลค เฮฟเว่น รีสอร์ท อ. ศรีสวัสด์ จ.กาญจนบุรี ที่นี่ได้ฉายาว่าเป็นมัลดีฟส์น้ำจืดแห่งแรกของประเทศไทย เพราะตัวรีสอร์ทตั้งอยู่ในผืนน้ำของเขื่อนศรีนครินทร์ ผู้มาเยือนสามารถมองเห็นความสวยงามของขุนเขา และผืนน้ำใสน่าลงไปแหวกว่ายเล่นได้แบบใกล้ชิด เลค เฮฟเว่น รีสอร์ท มีห้องทั้งหมดประมาณ 150 ห้อง ราคาห้องละประมาณ 3,500 บาท -4,000 บาท มาที่นี่นอกจากคุณจะนั่งเล่นนอนเล่นรับลมเย็นๆ เหนือทะเลสาบแล้ว คุณยังจะได้สนุกสุดเหวี่ยง กับเครื่องเล่นทางน้ำนานาชนิดอย่าง Super Water park หรือจะเป็นกิจกรรมทางบกอย่างเอทีวี เพ้นท์บอลอีกด้วย สามารถเข้าไปชมรายละเอียดได้ที่
www.lakeheaven.com หรือโทร.0 3469 6160
3. มัลดีฟส์ระนอง เกาะพยาม จากแผนที่ จ. ระนอง มองมาทางตะวันตกจะเห็นเกาะเรียงกัน 3-4 เกาะ เกาะที่อยู่ระหว่างเกาะช้างกับเกาะค้างคาวคือ "เกาะพยาม" ซึ่งไม่มีกิจกรรมบันเทิงเริงใจ แต่เป็นสวรรค์แสนเงียบสงบ มีหาดทรายขาว ทิวมะพร้าว และยังคงธรรมชาติดิบๆ น่าเที่ยวสำหรับคนชอบความเรียบๆ ง่ายๆ ที่พักบนเกาะพยามมีตั้งแต่ระดับหลักหมื่นจนถึงหลักร้อยบาท แม้ราคาจะถูก ทว่าบางแห่งก็เป็นแบบบ้านน้อยน่ารักแทรกตัวอยู่ในแมกไม้ริมชายหาด เช่น บลูสกาย รีสอร์ท เกาะพยาม ที่บรรยากาศของที่พักแห่งนี้ได้อารมณ์เหมือนมัลดีฟส์จริงๆ เลย ส่วนผูู้คนบนเกาะก็มีอัธยาศัยไมตรี แถมของกินก็ราคาเบาๆ ใครที่ใฝ่ฝันอยากไปเที่ยวเมืองนอกแต่ยังหาปัจจัยได้ไม่ครบ มาเกาะนี้แล้วจินตนาการว่าเป็นหาดเมืองฝรั่งผมแดงได้ไม่ยาก เพราะแทบทั้งเกาะมีแต่ชาวต่างชาติ ป้ายตามร้านรวงก็มีหลายภาษา เสริมจินตนาการได้ดีทีเดียว
4. เกาะตาชัย จ. พังงา มัลดีฟส์แห่งใหม่ของเมืองไทย เป็นเกาะเล็กๆ ส่วนหนึ่งของอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสิมิลัน และอยู่ไม่ไกลจาก หมู่เกาะสุรินทร์ เท่าใดนัก ถูกค้นพบเป็นครั้งแรกโดยตาชัย ชื่อเกาะแห่งนี้จึงได้รับการเรียกขานตามชื่อว่า เกาะตาชัย นับแต่นั้นมาเกาะตาชัย ตัวเกาะเป็นรูปเรียวยาว ทอดตัวในแนวเหนือใต้ ด้านทิศตะวันออกมีแนวหาดทรายขาวยาวประมาณ 800 เมตร ส่วนด้านทิศตะวันตกเป็นป่าเขา เป็นแนวหินสูงชัน มีแนวปะการังแข็งกว้างใหญ่ที่เป็นแหล่งของของสัตว์ทะเลวัยอ่อนอยู่ในบริเวณน้ำตื้นด้านหน้าหาดทิศตะวันออก และเนื่องจากเกาะตาชัยอยู่ไกลจากฝั่งและอยู่ไกลจากอื่นๆ มาก จึงแทบไม่มีเรือใดๆ เข้ามาจอดแวะท่องเที่ยวที่นี่ นอกจากเรือบริการดำน้ำที่จะพานักท่องเที่ยวมาดำน้ำลึกทางด้านทิศใต้ ซึ่งเป็นแหล่งดำน้ำลึกที่ขึ้นชื่อแห่งหนึ่งของเมืองไทย และด้วยเหตุนี้เองจึงทำให้เกาะตาชัยเป็นเกาะที่บริสุทธ์ มีนักท่องเที่ยวมาเยือนไม่มากนัก ตอนนี้บนเกาะเปิดให้นักท่องเที่ยวขึ้นไปเที่ยวชมไปแบบเช้าเย็น-กลับ (One Day Trip) ได้แล้ว หรือจะกางเต็นท์พักแรมสักคืนก็ได้ มีห้องน้ำแยกชายหญิงให้บริการสะดวกสบาย (แต่ยังไม่มีบ้านพักให้บริการนะ) สำหรับฤดูกาลท่องเที่ยวที่งดงามที่สุดของ เกาะตาชัย ก็คือระหว่างเดือนพฤศจิกายน - เมษายน หลังจากนั้นก็จะปิดเกาะประมาณ 6 เดือนเพื่อให้ธรรมชาติบนเกาะได้กลับมาฟื้นฟูตัวเองให้งดงามอีกครั้ง สามารถสอบถามข้อมูลได้ที่ ททท. สำนักงานภูเก็ต โทร. 0 7621 2213, 0 7621 1036
ขอบคุณภาพจาก:
www.theblueskyresort.com/koh_payam และ
www.triptravelgang.com