Author Topic: ดูแลอุปกรณไฟฟ้านอกบ้าน ให้ปลอดภัยในฤดูฝน  (Read 5829 times)

Cryptoz

  • Guest
ดูแลอุปกรณ์ไฟฟ้านอกบ้าน ให้ปลอดภัยในฤดูฝน (กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย)

           กระทรวงมหาดไทย โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เตือนประชาชนระวังอันตรายจากการใช้อุปกรณ์ไฟฟ้านอกบ้านในช่วงฤดูฝน พร้อมแนะหมั่นตรวจสอบสายไฟและอุปกรณ์ไฟฟ้าให้อยู่ในสภาพปลอดภัย หากพบรอยแตก หรือฉีกขาดให้รีบเปลี่ยนใหม่ทันที ไม่ใช้อุปกรณ์ไฟฟ้าในขณะที่มือเปียกหรือยืนในที่ชื้นแฉะ เพื่อลดความเสี่ยงต่อการถูกไฟฟ้าดูด ทำให้ได้รับอันตรายถึงขั้นเสียชีวิตได้
           
           นายวิบูลย์ สงวนพงศ์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) เปิดเผยว่า ฤดูฝนเป็นช่วงที่มีผู้ประสบอุบัติภัยจากไฟฟ้าเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะอุปกรณ์ไฟฟ้าที่อยู่นอกบ้านหรือที่โล่งแจ้งมีโอกาสชำรุดสูง เนื่องจากถูกแสงแดดส่องและน้ำฝนสาดอยู่เสมอ ส่งผลให้ผู้ใช้งานมีความเสี่ยงต่อการได้รับอันตรายมากกว่าอุปกรณ์ไฟฟ้าภายในบ้าน เพื่อความปลอดภัย
กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ขอแนะวิธีดูแลและใช้งานอุปกรณ์ไฟฟ้านอกบ้านในช่วงฤดูฝนอย่างปลอดภัย ดังนี้

กริ่งประตู

           เลือกใช้ชนิดที่มีหม้อแปลงแรงดันต่ำ 8 – 12 โวลต์ แบบชนิดกันน้ำที่มีฝาครอบปิด และยาแนวซิลิโคนรอบกริ่งอีกชั้นหนึ่ง เพื่อลดความเสี่ยงต่อการถูกไฟฟ้าดูด หากมือเปียกหรือยืนในที่ชื้นแฉะ ไม่ควรสัมผัสกริ่งโดยตรง ควรใช้หลังนิ้วกดหรือเคาะกริ่ง เพราะหากมีกระแสไฟฟ้ารั่วไหลจะได้ดึงมือกลับได้ทัน กรณีตรวจสอบพบสายไฟมีรอยฉีกขาด กริ่งประตูมีรอยร้าวให้จัดการเปลี่ยนใหม่ทันที

สายไฟฟ้าและปลั๊กไฟ

           ให้เลือกใช้สายไฟที่มีขนาดและชนิดที่เหมาะสมกับสภาพการใช้งาน  ไม่นำสายไฟที่ใช้ภายในบ้านไปใช้นอกบ้าน เพราะจะเกิดการชำรุดได้ง่าย ก่อให้เกิดอันตรายเพิ่มขึ้น สำหรับปลั๊กไฟควรใช้ชนิดกันน้ำหรือมีฝาครอบปิดกันน้ำ ทนต่อแสงแดด และมีระบบตัดกระแสไฟฟ้ารั่ว รวมถึงเดินสายไฟในท่อร้อยสายไฟ เพื่อป้องกันน้ำฝนไหลซึมและการขีดข่วนที่ทำให้เกิดกระแสไฟฟ้าลัดวงจร

โคมไฟสนาม

           หมั่นดูแลสายไฟให้อยู่ในสภาพปลอดภัย และติดตั้งสายดินกับโคมไฟสนาม  หากกระแสไฟฟ้ารั่วไหล ไฟจะได้ไหลลงดินโดยตรง จะช่วยป้องกันผู้ที่สัมผัสโคมไฟ มิให้ถูกกระแสไฟฟ้าดูด

ปั๊มน้ำ

           ติดตั้งให้ห่างจากบริเวณที่เปียกชื้นและชื้นแฉะ ทำฐานรองให้สูงกว่าระดับน้ำท่วมถึง และทำหลังคาคลุมป้องกันน้ำฝนสาด เพื่อลดความเสี่ยงต่อการได้รับอันตรายกรณีกระแสไฟฟ้ารั่ว

           ที่สำคัญ ผู้ที่อาศัยอยู่ในบ้านเรือนที่มีอายุเก่ากว่า 10 ปีขึ้นไป ควรเพิ่มความระมัดระวังเป็นพิเศษ หมั่นตรวจสอบอุปกรณ์ไฟฟ้าทั้งภายในและภายนอกบ้านให้อยู่ในสภาพปลอดภัย เพราะอุปกรณ์และสายไฟฟ้าที่ใช้งานมานานหลายปีจะเสื่อมสภาพ  ทำให้เสี่ยงต่อการเกิดกระแสไฟฟ้ารั่วไหลหรือลัดวงจร ส่งผลให้ผู้ใช้งานได้รับอันตรายได้

ที่มา : shopat7.com