Author Topic: หอระฆังเมืองซีอาน  (Read 6674 times)

ontcftqvx

  • สมาชิกใหม่
  • *
  • Posts: 0
    • View Profile
หอระฆังเมืองซีอาน
« on: April 25, 2013, 01:34:48 PM »
  เราอำลาพระถังซัมจั๋งพร้อมๆ กับที่พระอาทิตย์จะเริ่มลับขอบฟ้า แต่ว่าการเดินทางของเรายังไม่จบสิ้น เราจะต้องไปชม “หอระฆังเมืองซีอาน” ที่ตั้งอยู่ใจกลางเมืองซีอานกันก่อน หอระฆังสร้างด้วยอิฐและไม้ เป็นอาคารหลังคาสามชั้นดูยิ่งใหญ่อลังการมีความงดงามเป็นอย่างมาก ถูกสร้างขึ้นเมื่อปีที่ 17 สมัยจักรพรรดิหงอู่แห่งราชวงศ์หมิง(ค.ศ.1384) ตามศิลปะสถาปัตยกรรมที่เด่นชัดของราชวงศ์หมิง เป็นหอระฆังที่มีขนาดใหญ่ที่สุด และยังรักษาไว้ได้สมบูรณ์แบบที่สุดของจีนโบราณที่สืบทอดมาจนถึงปัจจุบัน
 ส่วนไม่ไกลกันนักก็เป็นที่ตั้งของ “หอกลอง” ซึ่งหอคอยทั้งสองได้ชื่อว่าเป็น “ตึกสองพี่น้อง” หรือ “ระฆังรุ่งอรุณและกลองรัตติกาล” เพราะว่าเมื่ออดีตประเทศจีนจะมีการตีกลองเพื่อบอกเวลาและเตือนภัยยามมีสถานการณ์ฉุกเฉิน โดยการให้สัญญาณบอกเวลานั้น ยามเช้าใช้เสียงระฆัง และยามค่ำใช้เสียงกลองบอกสัญญาณ

ontcftqvx

  • สมาชิกใหม่
  • *
  • Posts: 0
    • View Profile
Re: หอระฆังเมืองซีอาน
« Reply #1 on: April 25, 2013, 01:34:55 PM »

       พอยามค่ำคืนมาเยือนแล้วเราก็ต้องขอไปชอปปิ้งกันสักหน่อย ซึ่งใกล้ๆ กับหอระฆังเป็นที่ตั้งของ "ถนนมุสลิม" เป็นถนนที่มีชาวมุสลิมที่เข้ามาตั้งถิ่นฐานอยู่ในซีอานมาช้านานแล้ว ซึ่งยามค่ำคืนถนนสายนี้จะคึกคักมาก เพราะจะได้เห็นถึงวีถีชีวิตความเป็นอยู่และการค้าขายสินค้าของชาวมุสลิมที่น่าสนใจ มีทั้งอาหารสไตล์มุสลิมให้ได้ลองลิ้ม ผลไม้แห้งต่างๆ และมีของที่ระลึกให้เลือกซื้อติดไม้ติดมือกลับบ้านมากมาย ซึ่งเราก็ได้ชอปปิ้งซื้อของฝากติดมือกลับมานิดหน่อย
 เรียกได้ว่าการได้มาเยือนซีอาน ของ “ตะลอนเที่ยว” ในทริปนี้ขอบอกได้เลยว่าทำให้เราได้รู้จักประเทศจีนเพิ่มมากขึ้นไม่ว่าจะในแง่ของประวัติศาสตร์และอารยธรรมความเจริญของจีนที่มาตั้งแต่โบราณจวบจนถึงปัจจุบันนี้

หอระฆังนี้สร้างในปี ค.ศ. 1384 สร้างด้วยไม้ดูเหมือนเป็นหอ 3 ชั้น แต่ข้อมูลในเวป travelchinaguide บอกว่ามี 2 ชั้น การที่หอนี้ถูกสร้างให้สูงราว 36 เมตรจากพื้น เพราะต้องการใช้ประโยชน์จากหอนี้ในการดูลาดเลาพื้นที่รอบเมืองที่ไกลออกไปและใช้ระฆังตีบอกเหตุเตือนกรณีมีข้าศึกบุกเข้ามาใกล้ตัวเมือง
ผู้ต้องการเยี่ยมชมหอระฆังต้องเดินลอดทางเชื่อมใต้ดินลงไปถึงจะไปโผล่ที่หอระฆังได้ และถ้าจะขึ้นไปบนหอต้องเสียค่าเข้า พวกเราไม่ได้เข้า แค่เดินเล่นแล้วก็ถ่ายรูป แล้วก็พากันเดินออกไปทางหอกลอง (Drum Tower) ซึ่งอยู่ทางทิศตะวันตกห่างกันไม่กี่ร้อยเมตร 
 
ความสำคัญของหอกลองในอดีตที่สร้างในปี ค.ศ. 1380 คือเป็นกลองที่ใช้ตีบอกเวลาและเตือนภัยกรณีเกิดเหตุฉุกเฉิน

เราเดินอ้อมไปข้างหลังของหอกลองเป็นถนนย่านมุสลิมที่ขายของกินและของที่ระลึกสำหรับนักท่องเที่ยว มีป้ายบอกทางไป Great Mosqueหรือสุเหร่าของชาวมุสลิม
+
ประวัติ

Bell Tower
หอระฆังเป็นดุจดั่งหัวใจของเมืองซีอาน เพราะตั้งอยู่ตรงศูนย์กลางของถนนทั้งสี่ทิศที่กระจายตัวออกไปยังตะวันออก ตะวันตก เหนือ และใต้ รวมทั้งเป็นจุดเชื่อมของประตูเมืองทั้งสี่แห่งราชวงศ์หมิง สร้างในปี ค.ศ. 1384 โดยจูหยวนจางฮ่องเต้ เพื่อให้เป็นศูนย์บังคับบัญชาการปกครองภูมิภาคโดยรอบ และเตรียมพร้อมป้องกันการจู่โจมของข้าศึก ด้วยเสียงกังวานก้องของระฆังจิ่งหยุนที่เคยทำหน้าที่สม่ำเสมอในราชวงศ์ถัง ก่อนจะแทนที่ด้วยระฆังขนาดเล็กกว่าที่หนักราว 5 ตัน ในราชวงศ์หมิง


อาคารที่เต็มไปด้วยตำนานหลังนี้นับว่าเป็นหอคอยไม้โบราณที่ใหญ่ที่สุด และมีสภาพสมบูรณ์ที่สุดในประเทศจีน ตัวหอคอยสูง 36 เมตร ฐานหอคอยที่ก่อด้วยอิฐแต่ละด้านนั้นมีความยาว 35.5 เมตร และสูง 8.6 เมตร ด้วยขนาดและความสำคัญในประวัติศาสตร์ของสถานที่แห่งนี้ สะท้อนได้เป็นอย่างดีว่าเพราะเหตุใดซีอานจึงได้ชื่อว่าเป็นเมืองทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือของจีนในยุคราชวงศ์หมิงที่มีความสำคัญด้านการทหาร

มองไปตึกฝั่งตรงข้าม ตึกที่เรานั่งกินแมคกัน