1. หลักฐานการเดินทาง
ใบอนุญาตผ่านแดน (Border Passed) ให้ขอได้จากสำนักงานจังหวัดอุบลราชธานี ศาลากลางจังหวัดอุบลราชธานี
สำเนาบัตรประจำตัวประชาชนหน้าหลัง จำนวน 3 แผ่น (รับรองสำเนาถูกต้องด้วย)
สำเนาทะเบียนบ้านจำนวน 3 แผ่น (รับรองสำเนาถูกต้องด้วย)
รูปถ่าย 2 นิ้ว จำนวน 3 รูป
2. การปฏิบัติ
ให้ยื่นคำร้องขออนุญาตผ่านแดน พร้อมหลักฐานดังกล่าวล่วงหน้า 3 วันราชการ ต่อผู้มีอำนาจอนุมัติ ที่สำนักงานจังหวัด ศาลากลางจังหวัดอุบลราชธานี
ในกรณีที่ผู้ติดตาม (บุตรโดยชอบด้วยกฎหมายเท่านั้น) อายุไม่เกิน 15 ปี ให้ติดรูปถ่ายขนาด 2 นิ้ว 3 รูป เพื่อประกอบหลักฐาน
ข้าราชการที่จะเดินทางผ่านแดนต้องได้รับอนุมัติจาก รัฐมนตรีเจ้าสังกัด
3. กำหนดเวลาเดินทาง
ทัศนาจร หรือท่องเที่ยว 3 วัน
ติดต่อธุรกิจการค้า หรือเยี่ยมญาติ 7 วัน
ติดต่อธุรกิจการค้า (มีใบทะเบียนการค้ากับ สปป.ลาว) 30 วัน
การนำพาหนะข้านแดนเข้าไปในลาว ผู้ขับต้องมีสำเนาใบอนุญาตขับขี่ และใบเสียภาษีรถยนต์ สำหรับรถยนต์ที่ยังไม่ได้โอนทะเบียนเป็นเจ้าของอย่างสมบูรณ์ และถูกต้อง ต้องมีเงินสดเป็น หลักทรัพย์ หรือบุคคลที่เชื่อถือได้เป็นผู้ค้ำประกัน
4. ขั้นตอนการยื่นหนังสื่อเดินทาง
เมื่อได้รับอนุญาตผ่านแดนแล้ว ในวันเดินทางหรือก่อนเดินทาง 1 วัน ให้นำเอกสารไปยื่นที่ ที่ทำการตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดอุบลราชธานี อำเภอพิบูลมังสาหาร เพื่อตรวจสอบจำนวนคน เจ้าของรถ ใบขับขี่ และใบเสียภาษีรถยนต์
นำเอกสารดังกล่าว ไปตรวจสอบที่ด่านศุลกากรพิบูลมังสาหาร แล้วจึงนำไปจุดตรวจที่ด่านช่องเม็ก
ติดต่อด่านศุลกากรลาว เพื่อตรวจสอบหลักฐาน และชำระค่าธรรมเนียม
5. ค่าธรรมเนียมและค่าใช้จ่ายในการเดินทาง
ไปท่องเที่ยวไปเยี่ยมญาติ เสียค่าธรรมเนียมผ่านแดน (ลาว) คนละ 125 บาท
ติดต่อธุรกิจการค้า เสียค่าธรรมเนียมผ่านแดน (สปป.ลาว) คนละ 220 บาท
วันเสาร์ - อาทิตย์ และวันหยุดราชการ เสียค่าพาหนะที่พรมแดนไทย คันละประมาณ 500 บาท ซึ่งวันราชการไม่เสียค่าพาหนะและค่าล่วงเวลา
เมื่อเดินทางจากช่องเม็กไปแล้ว เมื่อถึงเมืองเก่าโพนทอง ก็จะมีเส้นทางให้เลือกอยู่ 2 เส้นทางคือ
- เส้นทางเก่า ข้ามแพขนานยนต์ ซึ่งข้ามจากท่าข้ามเมืองเก่าโพนทอง ไปยังท่าแพเมืองปากเซ รถ 1 คัน ค่าใช้จ่ายเที่ยวละประมาณ 195 บาท
- เส้นทางใหม่ ข้ามทางสะพาน ลาว-ญี่ปุ่น (สะพานข้ามแม่น้ำโขงแห่งที่ 2) เมืองปากเซ แขวง จำปาสัก สปป.ลาว ซึ่งจะต้องมีค่าใช้จ่ายในการผ่านทาง โดยคิดอัตราค่าธรรมเนียมผ่านสะพาน ดังนี้
ประเภทรถ
ราคา/กีบ
1. รถเครื่อง, สามล้อถีบ, รถลาก
2. รถสามล้อเครื่อง
3. รถตุ๊กตุ๊ก, สกายแล็ป, ต๊อกๆ
4. รถเก๋ง, รถกะบะ
5. รถโดยสาร หรือรถบัสไม่เกิน 15 ที่นั่ง
6. รถโดยสาร หรือรถบัสไม่เกิน 35 ที่นั่ง
7. รถบรรทุก 6 ล้อเล็ก
8. เครื่องจักรประเภทล้อยางทุกชนิด
9. รถโดยสาร หรือรถบัสเกิน 35 ที่นั่ง
10. รถบรรทุก 6 ล้อใหญ่
11. รถบรรทุก 10 ล้อใหญ่
12. รถลาก
13. รถพ่วง
14. รถบรรทุกเกิน 18 ล้อขึ้นไป 500 กีบ => 2.5 บาท
1,000 กีบ => 5 บาท
2,000 กีบ => 10 บาท
5,000 กีบ => 25 บาท
10,000 กีบ => 50 บาท
15,000 กีบ => 75 บาท
20,000 กีบ => 100 บาท
25,000 กีบ => 125 บาท
25,000 กีบ => 125 บาท
27,000 กีบ => 135 บาท
34,000 กีบ => 190 บาท
47,000 กีบ => 235 บาท
52,000 กีบ => 260 บาท
62,000 กีบ => 310 บาท
หมายเหตุ เพื่อความสะดวก กรุณาเตรียมเงินให้ครบตามประเภทรถของท่าน อัตราแลกเปลี่ยน โดยประมาณ ณ ขณะนี้ 1 บาท ประมาณ 200 กีบ
เมื่อเดินทางถึงเมืองปากเซแล้ว ให้นำเอกสารผ่านแดน ไปแจ้งเข้าเมือง ที่แผนกจราจร และ ที่ทำการ แขวงจำปาสัก และเมื่อจะเดินทางกลับให้นำเอกสารชุดเดิม ไปแจ้งขออนญาตออกนอกเมือง ที่แผนกจราจร
ผู้ไม่ปฏิบัติตามกฎดังกล่าวข้างต้น จะต้องเสียค่าสินไหม หรือค่าปรับตั้งแต่ 100 - 500 บาท
6. ข้อปฏิบัติเมื่อเดินทางกลับมาถึงพรมแดนช่องเม็ก
นำเอกสารผ่านแดนที่มีใบสลักหลังของแผนกจราจร และที่ทำการอำเภอ ยื่นให้เจ้าหน้าที่ศุลกากร (ลาว) เพื่อขอคืนเอกสารเดินทาง
นำเอกสารการเดินทางมายื่นที่เจ้าหน้าที่พรมแดนช่องเม็กและด่านศุลกากร (ไทย) เพื่อตรวจ สอบหลักฐาน และจำนวนคน
นำเอกสารเดินทางมายื่นต่อเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองด่านช่องเม็ก เพื่อตรวจสอบอีกครั้ง
7. ค่าล่วงเวลา
การเดินทางกลับถึงด่านศุลกากร (ไทย - ลาว) ต้องอยู่ในช่วงเวลาราชการ ( 08.00 - 12.00 น.และ 13.00 - 16.30น.) คือในเวลาราชการเท่านั้น หากเลยเวลาดั้งกล่าว จะต้องเสียเงินค่าล่วง เวลาทำงาน คนละ 5 บาท ค่ารถคันละ 25 บาท
เพื่อความถูกต้องโปรดติดต่อสอบถามรายละเอียด กับทางสำนักงานจังหวัด อีกครั้ง
โทร (045)255505, 254218 หรือ E-mail : ubon_prov@hotmail.com