สวัสดีค่ะ ร้านอาหารที่อยู่ใกล้ Trickeye Museum สาขาฮงแด ที่จะแนะนำในวันนี้
ชื่อร้านว่า ชิมซึนทัง
เป็นร้านของนักร้องสาว ฮวางโบ กับ นักร้องหนุ่ม ชิมแทยูน โดยมีเมนูหลักๆคือ เมนู บูแดจิเก
ขอเล่าถึงความเป็นมาของบูแดจิเกกันก่อนดีกว่านะคะ บูแดจิเก เป็นเมนูที่เกิดขึ้นในช่วงสงครามเกาหลีซึ่งประชาชน
ค่อนข้างจะยากจน ดังนั้นประชาชนที่อยู่ใกล้กับฐานทัพสหรัฐมักจะนำอาหารที่ได้รับแจกจากทหารสหรัฐมาราวมกัน
แล้วใส่ทุกอย่างลงไปต้มเป็นแกงหม้อใหญ่ ส่วนผสมจึงมีทั้ง แฮม ฮ็อทดอก ชีส ถั่วกระป๋อง ซอสพริกเกาหลี
รามยอนและกิมจิพอต้มเสร็จแล้วก็แบ่งกันทาน ถึงสงครามจะผ่านพ้นไปหลายทศวรรษแล้วแต่ด้วยรสชาติที่จัดจ้าน
จึงยังได้รับความนิยมจากชาวเกาหลีมาจนถึงทุกวันนี้ค่ะ
กลับมาที่ส่วนผสมของบูแดจิเกของร้านชิมซึนทังบ้าง ส่วนผสมหลักที่เป็นสูตรพิเศษของทางร้านนี้คือ นำกระดูกวัวมาเคี่ยวจนได้น้ำซุปเข้มข้น ซึ่งคำว่าเข้มข้นนี้ ตรงกับเสียงในภาษาเกาหลีว่า ชิม เจ้าของร้านที่เป็นนักร้องหนุ่มกับนักร้องสาวจึงตั้งชื่อร้านว่า ชิม ซึน ทัง และนี่ก็คือที่มาของชื่อร้านค่ะ
นอกจากน้ำซุปเข้มข้นแล้วทางร้านชิมซึนทังยังมีเอกลักษณ์อีกอย่างหนึ่งคือ การนำเนยมาคลุกกับข้าวเปล่า พอทานคู่กับน้ำแกงรสเผ็ดร้อนแล้วได้รสสัมผัสที่ดีไปอีกแบบหนึ่งค่ะ ที่น่าสังเกตุคือ ชามข้าวของร้านนี้จะไม่ใช่ถ้วยสแตนเลสเหมือนร้านอาหารเกาหลีทั่วๆไป ทั้งนี้เพื่อให้ผู้ทานคลุกข้าวได้อย่างสะดวกค่ะ
ส่วนท่านไหนชอบทานกระเทียมก็สามารถบีบกระเทียมใส่ในหม้อได้เลยค่ะ ทางร้านมีอุปกรณ์บีบกระเทียมให้พร้อมอยู่บนโต๊ะเรียบร้อยแล้ว
นอกจากนี้อีกสิ่งหนึ่งที่ขาดไม่ได้บนโต๊ะอาหารเกาหลีก็คือเครื่องเคียง ได้แก่ กิมจิ โอเด้ง ปลาแห้งผัดและผัดผักค่ะ
ท่านไหนทานบูแดจิเกแล้วยังไม่อิ่ม แนะนำให้สั่งบาร์บีคิวมาทานเพิ่มอีกหนึ่งเมนูค่ะ โดยเวลาทานควรทานคู่กับหอมที่เสิร์ฟคู่กันมา
และท่านไหนที่เป็นแฟนคลับศิลปินหรือดาราเกาหลีชื่อดังก็ลองมายืนหาลายเซ็นศิลปินที่ท่านชื่นชอบได้ที่มุมลายเซ็นคนดังได้เลยค่ะ
พอเห็นภาพแล้วหลายท่านคงเขียนชื่อร้านชิมซึนทังไว้ในลิสต์ร้านอาหารที่ต้องไปทานตอนมาเที่ยวเกาหลีแน่ๆเลยใช่มั้ยคะ
พิกัดของร้านนี้หาไม่ยากค่ะ อยู่ด้านหลังพิพิธภัณฑ์ศิลปะสามมิติ Trickeye Museum ของเรานี่เองค่ะ
เดินออกจากสถานีรถไฟใต้ดินสาย 2 สถานี Hongik University แล้วเดินตามเส้นสีแดงในภาพแผนที่ด้านล่างได้เลยค่ะ
ที่อยู่ร้าน ชิมซึนทัง 심슨탕 Seogyo-dong, Mapo-gu, Seoul. 355-210.
ที่มา :
http://trickeye.exteen.com/20140430/entry