Author Topic: เรื่องของหมา  (Read 6548 times)

Ralphbut

  • สมาชิกใหม่
  • *
  • Posts: 0
    • View Profile
เรื่องของหมา
« on: August 14, 2012, 10:00:50 AM »
การให้อาหารลูกสุนัข
                                                                                           
อาหารสำหรับลูกสุนัขอายุ 6-10สัปดาห์(หนึ่งเดือนครึ่ง - สองเดือนครึ่ง)
     สุนัขที่เรานำมาเลี้ยงนั้น ส่วนใหญ่จะมีอายุประมาณ 6-10สัปดาห์ ซึ่งเป็นระยะเวลาที่มันยังไม่หย่านมจากแม่ของมันเลย สุนัขในวัยนี้จะลืมตาได้แล้ว การเดินยังไม่ค่อยแข็งแรงนัก สุนัขจะมีพฤติกรรมเพียง 2อย่าง คือ กินกับนอน เจ้าของยังจำเป็นต้องให้นมกับลูกสุนัขอยู่
 
สูตรอาหารสำหรับลูกสุนัขในวัยนี้ ขอแนะนำสูตรง่ายๆ ดังนี้
     1.อาหารเม็ดสำเร็จรูปสำหรับลูกสุนัข(แช่อาหารเม็ดในน้ำอุ่นแล้วเทน้ำอุ่นทิ้งเหลือแต่อาหารเม็ดนิ่มๆ)
     2.นมรสจืด
     เทนมรสจืดผสมกับอาหารเม็ดที่แช่น้ำอุ่นมาแล้ว โดยไม่ต้องคลุก นำไปให้ลูกสุนัขกิน วันละ 3-4มื้อ สุนัขวัยนี้จะกินอาหารง่าย ไม่ค่อยมีปัญหาอะไร แต่สิ่งที่ต้องระวังอย่างมากก็คือ ต้องพิถีพิถันอย่าให้อาหารปนเปลื้อนสิ่งสกปรก นมบูด อย่าให้อาหารเหลือ อาหารเก่ากับลูกสุนัขเด็ดขาด เพราะอาจทำให้ลูกสุนัขท้องเสียได้
 
อาหารสำหรับลูกสุนัขอายุ 10-12สัปดาห์(สองเดือนครึ่ง - สามเดือน)
     สุนัขวัยนี้สามารถนำมาฝึกให้หย่านมแม่ได้ โดยการให้นมอย่างอื่นแทนนมแม่ และควรเป็นนมจืดเท่านั้น ลูกสุนัขจะเคยชินไปเอง
 
สูตรอาหารสำหรับลูกสุนัขในวัยนี้ ขอแนะนำสูตรง่ายๆ ดังนี้
     1.อาหารเม็ดสำเร็จรูปสำหรับลูกสุนัข(ไม่ต้องแช่น้ำอุ่น)
     2.ไข่ต้ม โดยเลือกเอาเฉพาะไข่แดง
     3.นมรสจืด
     บดไข่แดงซักเล็กน้อย แล้วนำไปคลุกรวมกับอาหารเม็ด เทนมจืดผสมโดยไม่ต้องคลุก นำไปให้ลูกสุนัขกิน หรืออาจจะแยกนมให้ลูกสุนัขกินต่างหาก หลังจากกินไข่แดงคลุกอาหารเม็ดแล้วก็ได้ นำไปให้ลูกสุนัขกิน วันละ 3-4มื้อ สุนัขวัยนี้จะกินอาหารง่าย และกินจุมาก เนื่องจากเป็นวัยที่ซุกซน กำลังเจริญเติบโต ต้องการพลังงานมาก
 
อาหารสำหรับลูกสุนัขอายุ 3 - 12เดือน
     สุนัขวัยนี้สามารถนำมาฝึกให้หย่านมแม่ได้ โดยการให้นมอย่างอื่นแทนนมแม่ และควรเป็นนมจืดเท่านั้น ลูกสุนัขจะเคยชินไปเอง
 
สูตรอาหารสำหรับลูกสุนัขในวัยนี้ ขอแนะนำสูตรง่ายๆ ดังนี้
     1.อาหารเม็ดสำเร็จรูปสำหรับลูกสุนัข(ไม่ต้องแช่น้ำอุ่น)
     2.ไข่ต้ม โดยเลือกเอาเฉพาะไข่แดง
     3.นมรสจืด
     บดไข่แดงซักเล็กน้อย แล้วนำไปคลุกรวมกับอาหารเม็ด เทนมจืดผสมโดยไม่ต้องคลุก นำไปให้ลูกสุนัขกิน หรืออาจจะแยกนมให้ลูกสุนัขกินต่างหาก หลังจากกินไข่แดงคลุกอาหารเม็ดแล้วก็ได้ นำไปให้ลูกสุนัขกิน วันละ 3-4มื้อ สุนัขวัยนี้จะกินอาหารง่าย และกินจุมาก เนื่องจากเป็นวัยที่ซุกซน กำลังเจริญเติบโต ต้องการพลังงานมาก
 
อาหารสำหรับลูกสุนัขอายุ 12เดือนขึ้นไป
     สุนัขวัยนี้ถือว่าเป็นสุนัขหนุ่มสาวที่โตเต็มที่
 
สูตรอาหารสำหรับลูกสุนัขในวัยนี้ ขอแนะนำสูตรง่ายๆ ดังนี้
     1.อาหารเม็ดสำเร็จรูปสำหรับลูกสุนัข(ไม่ต้องแช่น้ำอุ่น)
     2.ไข่ต้ม
     3.นมรสจืด
     บดไข่แดงซักเล็กน้อย แล้วนำไปคลุกรวมกับอาหารเม็ด เทนมจืดผสมโดยไม่ต้องคลุก นำไปให้ลูกสุนัขกิน หรืออาจจะแยกนมให้ลูกสุนัขกินต่างหาก หลังจากกินไข่แดงคลุกอาหารเม็ดแล้วก็ได้ นำไปให้ลูกสุนัขกิน วันละ 3-4มื้อ สุนัขวัยนี้จะกินอาหารง่าย และกินจุมาก เนื่องจากเป็นวัยที่ซุกซน กำลังเจริญเติบโต ต้องการพลังงานมาก ซึ่งเราต้องฟูมฟักกับมันอยู่เช่นนั้น กว่าที่จะโตเป็นหนุ่มเป็นพ่อพันธ์แม่พันธุ์ได้ต้องใช้เวลาประมาณ10-15เดือน(ระยะเวลาขึ้นอยู่กับสายพันธุ์ของมัน) ความจริงนั้นสุนัขปรับตัวเองได้ดีมาก มันจะสามารถทานอะไรได้ทุกๆ อย่างตามที่เราจัดหาให้มัน แต่ต้องค่อยเป็นค่อยไป เช่น จากทานแต่เนื้อสัตว์ก็ค่อยๆ เริ่มทานข้าว และผัก อื่นๆ ได้
      สุนัขบางตัวทานแต่กับ ข้าวที่คลุกให้มันจะไม่ยอมแตะ เป็นที่กลัดกลุ้มใจต่อผู้เลี้ยงมาก ที่จะต้องสูญเสียเงินเป็นจำนวนมาก เป็นการเพิ่มภาระเลี้ยงดูนอกเหนือจากลูกสาวลูกชาย และสมาชิกในครอบครัวที่มีอยู่เป็นปรกติแล้ว
      สุนัขแต่วัยแต่ละตัวแต่ละพันธุ์ชอบทานอาหารไม่เหมือนกันจะคลุกข้าวกับปลาทู กับเศษอาหารเหลือๆ เหมือนสุนัขบ้าน สุนัขวัด มันไม่ทานแน่
สุนัขที่เรานำมาเลี้ยงได้ส่วนใหญ่จะมีอายุประมาณ 10 สัปดาห์ เป็นระยะเวลาที่มันหย่านมจากแม่ ลืมตา และแข็งแรงแล้ว เมื่อนำมาเลี้ยงจะมีพฤติกรรมเพียง 2 อย่าง คือ กินกับนอน ซึ่งเราต้องฟูมฟักกับมันอยู่เช่นนั้น กว่าที่จะโตเป็นหนุ่ม เป็นพ่อพันธ์ แม่พันธุ์ได้ต้องใช้เวลาประมาณ10 - 15 เดือน(ระยะเวลาขึ้นอยู่กับสายพันธุ์ของมัน)
สารอาหารที่จำเป็นสำหรับสุนัข
      สารอาหารที่จำเป็นสำหรับสุนัขที่กำลังเจริญเติบโต ก็เช่นเดียวกับคน คือมันจะต้องการ คาร์โบไฮเดรต โปรตีน วิตามิน ไขมัน แร่ธาตุ น้ำ จะแตกต่างกันที่ปริมาณเท่านั้นหากต้องการจะทำอาหารให้สุนัขทานควรเป็นประเภท ข้าวเนื้อสัตว์ ผักเป็นองค์ประกอบหลัก และปรับปรุงรสชาติให้น่าทาน เพราะสุนัขก็มีต่อมรับรส เช่นเดียวกัน หากอาหารที่คุณทำดีมีรสชาติถูกใจ มันก็จะ เจริญอาหาร ทานจนพุงกาง ไปเลย
      ควรเปลี่ยนอาหารสลับหมุนเวียนกันบ้าง ไม่ควรให้มันทานของซ้ำๆ กัน เพราะจะทำให้มันขาดสารอาหารชนิดใดชนิดหนึ่งตลอดเวลา ทำให้ เป็นปัญหาต่อสุขภาพในอนาคต
อาหารประเภทไข่ ไม่ควรให้ทานไข่ดิบหรือไข่ลวก เพราะโปรตีนในไข่จะไม่ดูดซึม เข้าสู่ร่างกายสุนัข ควรทำให้สุกโดยการทอด หรือต้มจะเป็นประโยชน ์ต่อสุนัขของ คุณมากกว่า
อาหารประเภทตับ หลายคนชอบให้สุนัขรับประทาน เพราะหาง่ายและ สุนัขก็ชอบเหมือนกัน แต่ไม่ควรให้มันทานทุกวัน การให้อาหารประเภทตับ เช่น ตับต้ม ตับย่าง แก่สุนัขทุกวันจะทำให้มีปัญหาเรื่องกระดูก เนื่องจากในตับไม่มี ความสมดุลของแร่ธาตุที่เป็นองค์ประกอบในร่างกาย จะทำให้สุนัขของคุณเป็นโรคกระดูกบาง กระดูกหักง่าย หากต้องการให้สุนัขทานตับจริง ๆ ก็ควรเพิ่มอาหารเสริมที่เป็นวิตามิน หรือแคลเซี่ยมก็จะช่วยแก้ปัญหานี้ไปได้
หลักการเลือกอาหารสำเร็จรูปของสุนัข
1. ต้องพิจารณาดูว่าสุนัขของท่านอยู่ในวัยใด เป็นเด็ก เป็นหนุ่ม หรืออยู่ใน วัยชราแล้ว ควรจัดผสมสูตรของอาหารให้เหมาะสมกับวัยของสุนัข การผสม สัดส่วน ของสารอาหารโดยผิดสูตรจะมีผลอย่างยิ่งต่อสุนัขที่ยังอยู่ในวัยเด็กอยู่
2. อาหารกระป๋อง หรืออาหารเม็ด ทั้ง 2 อย่างก็มีประโยชน์ต่อสุนัข ของคุณ เท่ากัน ขี้นอยู่กับว่าสุนัขจะชอบทานประเภทไหน ถ้าเป็นแบบกระป๋องก็ทานง่าย เพราะมีกลิ่น มีน้ำ และรสชาติที่อร่อยกว่าแบบเม็ด เพื่อเป็นการประหยัดค่าใช้จ่าย
3. ตรวจสอบอาหารก่อนซื้อ ต้องดูว่าภาชนะที่บรรจุอาหารสุนัข จะไม่ขาดรั่ว มีแมลงตัวมอด หรือหนอนเจาะไซถุง ถ้าเป็นกระป๋องก็ต้องไม่บุบ ไม่รั่ว ไม่บวม ไม่ขึ้นสนิม ไม่มีกลิ่นเหม็นหึน กลิ่นบูดเน่า
เทคนิคการให้อาหารสุนัข
       เป็นขั้นตอนที่สำคัญในการเลี้ยงสุนัขที่เจ้าของจะต้องเรียนรู้ และเข้าใจ ในพฤติกรรมของสุนัข มิฉะนั้นสุนัขของคุณก็จะเติบโตอย่างไม่มีคุณภาพ เทคนิคการให้อาหารสุนัขมี 3 วิธี คือ
1. ตักทิ้งไว้ครั้งละมากๆ ให้สุนัขเลือกทานเอง กรณีนี้สุนัขคุณจะทานอาหารได้ทั้งวัน ทั้งคืน เป็นการสะดวกต่อเจ้าของที่มีธุรกิจมาก ไม่ค่อยจะอยู่บ้านเลี้ยงดูมันอาหารประเภทนี้ควรเป็นอาหารประเภทเม็ดจะสะดวกที่สุด เพราะหากให้เป็นอาหารสดเมื่อทิ้งไว้นานๆ จะทำให้บูดเน่าเป็นอันตรายต่อสุนัข
ข้อเสียของการให้อาหารประเภทนี้ จะทำให้เราไม่รู้ได้เลยว่าสุนัขตัวไหนได้กินมาก หรือกินน้อย หรือตัวไหนไม่ได้กินเลย เพราะพฤติกรรมของสุนัขก็มักมีการเบ่งอวดความแข็งแกร่งถึงขนาดขู่ไม่ให้ทานอาหารเลยก็มี ซึงกรณีนี้เราจะล่วงรู้ได้อีกทีก็ต่อเมื่อสุนัขบางตัว ของท่านซูบผอม หรือไม่สบาย
2. ให้อาหารโดยควบคุมเรื่องเวลา การกำหนดเวลาให้อาหารสุนัข จะทำให้มันรู้ เวลาของมันโดยอัตโนมัติ พอถึงเวลาสุนัขของท่าน ก็จะเรียกร้องที่จะขออาหารทาน เช่น เดินตาม หรือเห่าร้อง เอามือตะกายประตู หรือข้างฝา สุนัขบางตัวจะค่อยๆ กิน บางตัวก็จะรีบกินโดยไม่ตรวจสอบดูว่า อาหารในจานเป็นอะไรมีมากน้อยเพียงแค่ไหน ควรจำกัดเวลากินของมันสัก 20-30 นาทีก็จัดเก็บอาหาร เก็บไว้ให้มันกินในมื้อต่อๆ ไป
      ลูกสุนัขที่มีอายุไม่เกิน 6 เดือนควรให้กินวันละ 3 มื้อ 6-12 เดือนควรให้กินวันละ 2 มื้อ อายุเกิน 1 ปีขึ้นไปให้กินวันละ 1 ครั้งก็พอ
3. แบ่งอาหารตามสัดส่วนและอัตราการกินของสุนัขแต่ละตัว สุนัขแต่ละตัวมีพฤติกรรมการกินที่แตกต่างกันออกไป บางตัวกินน้อย บางตัวกินมาก บางตัวนอกจากจะกินมากแล้ว ยังกีดกันไม่ให้ตัวอื่นกินในที่ของมันอีก วิธีนี้จะเป็นวิธีการให้อาหารทีดีที่สุด แต่คุณจะต้องมีเวลาที่จะคอยควบคุมการกินของบรรดา เหล่าสุนัขพวกนี้
      ปัญหาที่ทำให้ผู้เลี้ยงสุนัขประสบอีกอย่างหนึ่งคือ ปัญหาการเปลี่ยน อาหารสุนัข พบว่าสุนัขบางตัวปฏิเสธไม่ยอมรับอาหารใหม่เหล่านั้น วิธีการที่ถูกต้องในการปรับให้สุนัขทานอาหารใหม่ ต้องทำแบบค่อยเป็นค่อยไป โดยสัปดาห์แรกควรนำ อาหารเก่าและใหม่มาคลุกรวมกันในอัตราส่วน 1 ต่อ 4 เพื่อไม่ให้สุนัขลืมรสชาติอาหารเก่า สัปดาห์ที่ 2 เพิ่มอัตราส่วนอาหารใหม่เป็น
1 ต่อ 2 พอสัปดาห์ที่ 3 ก็เพิ่ม เป็น 3 ต่อ 4 และสัปดาห์ต่อไปก็ลอง ให้อาหารใหม่ เพียงอย่างเดียว สุนัขของคุณก็จะเคยชินและยอมรับอาหารใหม่ไปโดยปริยาย
      การเปลี่ยนอาหารใหม่ให้สุนัขเป็นเรื่องที่ดี ดังกล่าวมาแล้ว เพราะจะทำให้สุนัขได้รับสารอาหารชนิดอื่นหมุนเวียนครบถ้วนกรณีที่มันไม่ยอมรับ ผู้เลี้ยงต้องทำใจและค่อยๆ ปรับเปลี่ยนโดยใช้เวลา ซึ่งอาจจะนานกว่า 4 สัปดาห์ ถ้ามันเป็นสุนัขที่ดื้อและไม่ยอมเปลี่ยนอาหารง่าย ๆ