บางกอก แอร์เวย์ส ปรับกลยุทธ์ดันยอดขาย ชูจุดขายบินตรงสมุยในหลายจุดบิน
จากเอเชีย โดยไม่ต้องผ่านกรุงเทพฯ สร้างความมั่นใจทัวริสต์ต่างประเทศ พร้อม
ลั่นเปิดบินสมุย-ตราด ปลายปีนี้ พร้อมอัดโปรโมชันเพียบปั๊มไทยเที่ยวไทย คลอด
แพ็กเกจ "บินคุ้ม เที่ยวสุขใจ" 3 วัน 2 คืนรวมตั๋วเครื่องบินและโรงแรมเริ่มต้นที่
5.9 พันบาท พร้อมสร้างแบรนด์หวังเข้าถึงตลาดคนไทยมากขึ้น
ม.ล.นันทิกา วรวรรณ รองผู้อำนวยการใหญ่ฝ่ายโฆษณาและประชา
สัมพันธ์ สายการบินบางกอกแอร์เวย์ส เปิดเผยกับ "ฐานเศรษฐกิจ" ว่า จาก
สถานการณ์ทางการเมืองที่เกิดความวุ่นวายก่อนหน้านี้ ได้ส่งผลให้อัตราการ
บรรทุกเฉลี่ยผู้โดยสารของสายการบิน ในเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมาอยู่ที่ราว
50% เท่านั้น จากที่ในช่วงไตรมาส 1 อยู่ที่ 85% ซึ่งในขณะนี้สายการบินก็กำลัง
จับตาดูว่าเดือนกรกฎาคม-สิงหาคมนี้ ยอดผู้โดยสารจะกระเตื้องขึ้นหรือไม่ เพราะ
คาดว่าหลังจากเหตุการณ์สงบแล้ว ประมาณเดือนธันวาคมนี้-มกราคม 2554 ผู้โดยสารจะกลับมาดีขึ้น
ทั้งนี้มีผลมาจากการออกเตือนของประเทศต่างๆ ทำให้นักท่องเที่ยวหลีกเลี่ยงการ
เดินทางเข้าประเทศไทย ซึ่งถ้าหากมีการยกเลิก Travel Warning นักท่องเที่ยว
คงจะกลับมา เพราะนักท่องเที่ยวชาวฮ่องกงและสิงคโปร์ชอบมาเที่ยวสมุยมาก
ประกอบกับบางกอกแอร์เวย์สมีเที่ยวบินตรงเข้าสมุย โดยที่ไม่ต้องเข้ากรุงเทพฯ
เช่น ฮ่องกง-สมุย ไปและกลับ สิงคโปร์-สมุย ไปและกลับ ซึ่งในส่วนของการ
อำนวยความสะดวกของเที่ยวบินคงไม่มีปัญหา แต่รัฐบาลควรจะต้องเร่งสร้างภาพ
ลักษณ์ใหม่ โดยต้องทำให้ต่างชาติเห็นว่าประเทศไทยเป็นแลนด์ ออฟ สไมล์
ส่วนแผนในการกระตุ้นนักท่องเที่ยวนั้น บางกอก แอร์เวย์ส มีหลายโครงการที่จะ
ดำเนินการ ไม่ว่าจะเป็นการร่วมมือกับการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ใน
การโปรโมตแหล่งช็อปปิ้งในไทย เพื่อให้ชาวต่างชาติเดินทางเข้ามาช็อปปิ้งที่เมือง
ไทย รวมถึงการโปรโมตให้คนฮ่องกงมาร่วมงานสมุยแฟร์ เพื่อให้ชาวฮ่องกงรู้จัก
สมุยมากกว่านี้ และมีแผนเปิดเส้นทางบินใหม่ สมุย-ตราด ซึ่งจะเริ่มให้บริการในวัน
ที่ 2 ธันวาคมนี้ โดยจะทำให้เป็นจุดบินแบบสามเหลี่ยม คือ ตราด-กรุงเทพฯ-สมุย
และจะใช้สมุยเป็นศูนย์กลางการบินหรือฮับมากขึ้น
นอกจากนี้เพื่อเป็นการรับมือจากผลกระทบทางการเมืองและช่วงโลว์ซีซัน
บางกอกแอร์เวย์สจึงได้มีการจัดทำแพ็กเกจ "บินคุ้ม เที่ยวสุขใจ กับบางกอกแอร์
เวย์ส" เพื่อเป็นการกระตุ้นตลาดการท่องเที่ยวในประเทศมากขึ้น โดยร่วมกับ
โรงแรมต่างๆ ในเชียงใหม่ ภูเก็ต และสมุย เสนอบัตรโดยสารเครื่องบินไป-กลับ
พร้อมที่พัก 3 วัน 2 คืน สำหรับเดินทางอย่างน้อย 2 คน เส้นทางกรุงเทพฯ-
เชียงใหม่ ราคาเริ่มต้นที่ 5,900 บาทต่อคน กรุงเทพฯ-ภูเก็ต ราคาเริ่มต้นที่ 7,100
บาทต่อคน และกรุงเทพฯ-สมุย ราคาเริ่มต้นที่ 8,700 บาทต่อคน ราคานี้รวมบัตร
โดยสารเครื่องบินไป-กลับโดยสารสายการบินบางกอกแอร์เวย์ส และที่พักพร้อม
อาหารเช้า 3 วัน 2 คืน และรถรับส่งจากสนามบิน เดินทางได้ตั้งแต่วันนี้ถึง 30 กรกฎาคมนี้
รวมถึงยังได้เล็งเห็นศักยภาพของการนำกีฬามาเป็นแรงจูงใจเพื่อให้เข้าถึงนักท่อง
เที่ยวที่นิยมกีฬา ดังนั้นบางกอกแอร์เวย์สจึงได้ร่วมกับหน่วยงานภาครัฐ เช่น การ
ท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย การกีฬาแห่งประเทศไทย จัดการแข่งขันกีฬาหลาย
รายการ เช่น การแข่งขันกอล์ฟเอเชี่ยนทัวร์ ควีนส์คัพชิงถ้วยพระราชทานสมเด็จ
พระนางเจ้าสิริกิติ์ฯ ในระหว่างวันที่ 17-20 มิถุนายนนี้ และการแข่งขันสมุย ไอ
ส์แลนด์ มาราธอน ชิงถ้วยพระราชทานสมเด็จพระเทพฯ ในวันที่ 19 กันยายนนี้ ที่เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี
ทั้งยังได้จัดทำแพ็กเกจ "อะเมซิ่ง ไทยแลนด์ กอล์ฟ พาราไดซ์ 2010" เพื่อส่ง
เสริมการท่องเที่ยวภายในประเทศและการเดินทางท่องเที่ยวแบบเชื่อมโยงภูมิภาค
ระหว่างภาคตะวันออกและภาคใต้ เนื่องจากบางกอกแอร์เวย์ส มีเที่ยวบินเชื่อม
ระหว่างพัทยาและภูเก็ต ซึ่งจะเป็นการกระตุ้นการท่องเที่ยวระหว่าง 2 เมือง โดยใช้
กีฬากอล์ฟเป็นจุดขาย ซึ่งจะเป็นแพ็กเกจ 3 วัน 2 คืน สำหรับเดินทางวันที่ 16
มิถุนายน-15 สิงหาคมนี้ ราคาเริ่มต้นที่ 13,500 บาทต่อคน รวมบัตรโดยสารเครื่อง
บินไป-กลับ ค่าโรงแรมที่พัก 2 คืน พร้อมอาหารเช้า รถรับส่งระหว่างสนามบินและ
ที่พัก ค่า Green Free 18 หลุม จำนวน 2 รอบ โดยขายผ่านบริษัท บางกอก แทรเวลคลับฯ และตัวแทนจำหน่ายต่างๆ
อีกทั้งสายการบินยังได้ออกแคมเปญ "Beyond Boarding Pass" เพื่อมอบส่วนลด
พิเศษสำหรับผู้โดยสาร เพียงนำบัตรแสดงขึ้นเครื่อง หรือ Bording Pass ของสาย
การบินใดก็ได้มาแสดง เพื่อใช้เป็นส่วนลด 5% ในการซื้อบัตรโดยสารเครื่องบินโป
รโม ชันต่างๆ ของสายการบินบางกอกแอร์เวย์สทั้งเส้นทางบินในและต่างประเทศ ตั้งแต่วันนี้จนถึง 31 กรกฎาคมนี้ อีกทั้ง Boarding Pass ของบางกอกแอร์เวย์สที่
เดินทางในช่วงวันที่ 1 มิถุนายน-31 กรกฎาคมนี้ สามารถนำมาใช้เป็นส่วนลดกับร้านค่าต่างๆ ที่ร่วมรายการ เช่น ไอเบอรี่, กับข้าวกับปลา และบลู อิเลฟเฟนท์ เป็นต้น โดยใช้สิทธิ์ได้ถึงวันที่ 31 กรกฎาคมนี้
ประกอบกับสายการบินต้องการ ปรับภาพลักษณ์ของแบรนด์ให้สามารถเข้าถึงตลาดคนไทยมากขึ้น จึงได้ทุ่มงบกว่า 60 ล้านบาท ในการออกภาพยนตร์โฆษณาชุดใหม่ "Love at First Flight" ซึ่งจะสื่อถึงความเป็นบูติก แอร์ไลน์ พร้อมกับจัดแพ็กเกจพิเศษในธีม "Love Actually" สำหรับคู่รักในราคาเริ่มต้น 10,800 บาทต่อท่าน ประกอบด้วยบัตรโดยสารเครื่องบินบางกอกแอร์เวย์สไปกลับ พร้อมที่พัก 3 วัน 2 คืน ในเส้นทางเชียงใหม่ ภูเก็ต สมุย และหลวงพระบาง และโรแมนติกดินเนอร์สุดหรู ที่ห้องอาหารของโรงแรม 1 มื้อ ตั้งแต่วันนี้ถึง 31 สิงหาคมนี้
ด้านนายพุฒิพงศ์ ปราสาททองโอสถ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ สายการบินบางกอกแอร์เวย์ส เผยว่า ผลประกอบการของสายการบินในช่วงไตรมาสแรกของปี 2553 อยู่ที่ประมาณ 2.3 พันล้านบาท ซึ่งถือว่าดีมากเมื่อเทียบกับในทุกไตรมาสของปี 2552 ซึ่งในปีที่ผ่านมาสายการบินมีผลประกอบการอยู่ที่ 7 พันล้านบาทและจำนวนตัวเลขผู้โดยสารทั้งปีอยู่ที่ 2.5 ล้านคน จึงมีการคาดการณ์ไว้ว่าจำนวนผู้โดยสารในปี 2553 จะอยู่ที่ 2.7 ล้านคน มีรายได้ราว 8.2 พันล้านบาท แต่จากการเมืองวุ่นวายก่อนหน้านี้ ทำให้ในช่วง 2-3 เดือนที่ผ่านมา จำนวนผู้โดยสารลดลง 20-30% จึงอาจมีผลทำให้ยอดรายได้ที่ตั้งไว้โดยรวมลดลง
ดังนั้น บางกอกแอร์เวย์สจึงมีการปรับแผนการดำเนินธุรกิจในช่วงหลังจากนี้ไปให้สอด คล้องกับแผนฟื้นฟูการท่องเที่ยวจากภาครัฐ โดยได้จัดแคมเปญและโปรโมชันการขายร่วมกับพันธมิตร ทั้งภาครัฐและเอกชน เพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวให้กลับมา รวมทั้งชักชวนให้นักท่องเที่ยวชาวไทยซึ่งเป็นตลาดที่มีศักยภาพสูงในขณะนี้ ออกมาท่องเที่ยวมากขึ้น
ทั้งนี้ สัดส่วนผู้โดยสารของบางกอกแอร์เวย์ส แบ่งเป็น ผู้โดยสารเดินทางในประเทศ 15% และผู้โดยสารเดินทางต่างประเทศ 85% แต่จากสถานการณ์ในขณะนี้ ทำให้สายการบินตั้งเป้าที่จะต้องเพิ่มจำนวนผู้โดยสารในประเทศให้มีสัดส่วน เป็น 20-25% เพื่อให้เข้ากับสภาวะตลาดและได้ปรับแผนการดำเนินงานโดยเน้นลูกค้ากลุ่มคน ไทยมากขึ้น รวมถึงการออกโปรโมชันต่างๆ การทำการตลาดเพื่อเพิ่มสัดส่วนยอดขายในส่วนของออนไลน์และเว็บไซต์ การเพิ่มพันธมิตรโค้ดแชร์เพื่อนำนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้าประเทศเพิ่มขึ้น และจะเพิ่มความถี่ของเที่ยวบินให้มากขึ้น
สำหรับกลยุทธ์ตลาดต่างประเทศ วางแผนไว้ว่าปลายเดือนนี้จะมีการนัดประชุม GSA (General Sale Agent) เพื่อให้เป็นแนวทางบอกความเป็นไป ความเคลื่อนไหวต่างๆ กับตัวแทนบางกอกแอร์เวย์สตามประเทศต่างๆ และมีการวางแผนว่าจะไปโปรโมตการท่องเที่ยวที่ฮ่องกงอีกด้วย
นายจุลิน กอเจริญ รองผู้อำนวยการฝ่ายขาย ส่วนวางแผนกลยุทธ์การขายและบริหารสำนักงาน สายการบินบางกอกแอร์เวย์ส กล่าวว่า บางกอกแอร์เวย์สได้ให้ความสำคัญในทุกช่องทางการขาย โดยเฉพาะช่องทางออนไลน์มีอัตราการขยายตัวสูง สำหรับสถิติยอดขายผ่านทางเว็บไซต์ตั้งแต่ปี 2545-2552 มีอัตราเติบโตต่อเนื่องเฉลี่ย 30% ต่อปี โดยในปี 2552 สัดส่วนยอดขายสูงถึง 27% ของรายได้รวมทั้งหมด และในปี 2553 นี้ตั้งเป้าการขยายตัวผ่านทางออนไลน์ 35% หรือสัดส่วนประมาณ 2.8 พันล้านบาท จากรายได้รวม และคาดว่าธุรกิจการท่องเที่ยวน่าจะฟื้นตัวเร็วและจำนวนนักท่องเที่ยวจะฟื้น ตัวขึ้นตามลำดับในช่วงครึ่งปีหลัง โดยในปีนี้ได้มีการปรับภาพลักษณ์ของเว็บไซต์ให้สวยงามทันสมัยและง่ายต่อการ ใช้งานมากยิ่งขึ้น ซึ่งคนไทยมีการซื้อตั๋วผ่านออนไลน์ราว 15%
รวมถึง การอยู่ในขั้นตอนการพัฒนาแอพพลิเคชันสำหรับการสำรองที่นั่ง เช็กอิน ตรวจสอบข้อมูลเที่ยวบิน ข่าวสารต่างๆ และคะแนนสะสมสำหรับผู้ใช้ไอโฟน นอกจากนี้ยังมีการใช้ Social Media เช่น เฟซบุ๊ก ทวิตเตอร์ ซึ่งลูกค้าและบุคคลทั่วไปสามารถเข้าไปสอบถามข้อมูลต่างๆ โดยจะมีเจ้าหน้าที่ตอบคำถามแบบเรียลไทม์ และเชื่อว่ากลยุทธ์ด้านออนไลน์ มาร์เก็ตติ้ง จะเป็นปัจจัยหนึ่งช่วยให้ผู้บริโภคตัดสินใจและจะช่วยเพิ่มฐานลูกค้าใหม่ใน ชุมชนออนไลน์
จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจฉบับที่ 2,540 17-19 มิถุนายน พ.ศ. 2553