Author Topic: คฤหาสถ์หรูในสวนโกลฟเวอร์ (Glover Garden) นางาซากิ  (Read 8390 times)

ontcftqvx

  • สมาชิกใหม่
  • *
  • Posts: 0
    • View Profile
คฤหาสถ์หรูในสวนโกลฟเวอร์ (Glover Garden)         


Glover Garden คฤหาสถ์หรูในสวนโกลฟเวอร์

หลังจากญี่ปุ่นปิดประเทศมานาน(ตั้งแต่ พ.ศ.2184) จนกระทั่งเมื่อ พ.ศ.2396 นายพลเรือจัตวาแม็ทธิว เพอร์รี่แห่งกองเรือแบล็กชิพ ได้เดินทางมาถึงและบีบบังคับให้ญี่ปุ่นเปิดประเทศได้สำเร็จ ทำให้เกิดการติดต่อค้าขายกับต่างประเทศมากขึ้น มีพ่อค้าจากสหรัฐอเมริกา ฮอลแลนด์ รัสเซีย อังกฤษ ฝรั่งเศส เดินทางมาค้าขายกับญี่ปุ่น รวมทั้งพ่อค้าชาวสก็อตชื่อ โทมัส เบล็ก โกลฟเวอร์(Thomas Blake Glover) เดินทางมาถึงนางาซากิเมื่อพ.ศ.2402 ซึ่งขณะนั้นเขามีอายุเพียง 21 ปีเท่านั้น



โกลฟเวอร์เปิดบริษัท Glover & Co.แล้วได้ช่วยนางาซากิพัฒนาความเจริญในด้านต่าง ๆ สร้างสิ่งใหม่ ๆ ที่ไม่เคยมีในญี่ปุ่นมาก่อนขึ้นมา เช่น ทางรถไฟสายแรก โรงกษาปน์แห่งแรก โรงพิมพ์แห่งแรกที่ใช้ระบบแป้นพิมพ์ อู่ต่อเรือ เป็นต้น ทั้งหมดนี้มีหลักฐานจัดแสดงไว้ภายในคฤหาสถ์หลังงาม ซึ่งปัจจุบันได้กลายเป็นพิพิธภัณฑ์

นอกจากนั้นเขายังมีบทบาทในการสนับสนุนกลุ่มกบฏล้มล้างอำนาจของโชกุนจนนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในญี่ปุ่น นำไปสู่การปฏิรูปเมจิ ตั้งแต่พ.ศ. 2411 และฟื้นฟูอำนาจของพระจักรพรรดิคืนมาได้ในที่สุด
 
ต่อมาเขาจึงแต่งงานกับเกอิชานางหนึ่งนามว่า อาวะจิยะ ทซึรุ (Awajiya Tsuru) จึงได้สร้างคฤหาสน์หลังใหญ่ขึ้นตรงเนินเขามินามิ-ยามาเตะ(Minami-Yamate)ทางด้านใต้ของเมืองนางาซากิเมื่อปีพ.ศ. 2406 โดยนำสถาปัตยกรรมแบบยุโรปและญี่ปุ่นมาผสมเข้าด้วยกัน มีอาคารตั้งอยู่ภายในสวนอันร่มรื่นหลายหลัง จากข้างบนนี้สามารถมองเห็นทิวทัศน์อ่าวนางาซากิ ท่าเรืออันจอแจและตัวเมืองนางาซากิได้อย่างชัดเจน เห็นอาคารบ้านเรือนตั้งลดหลั่นกันอยู่บนเชิงเขาสวยงามมาก
 


สวนโกลฟเวอร์ทุกวันนี้เป็นสถานที่ท่องเที่ยวอันดับต้น ๆ ของนางาซากิที่ทุกคนต้องมาเยี่ยมชม มีบันไดเลื่อนพร้อมหลังคาคลุมอำนวยความสะดวกให้เดินเที่ยวชมได้อย่างเพลิดเพลินอาคารหลังที่อยู่บนสุดคือ บ้านพักของลูกเรือของบริษัทมิตซูบิชินางาซากิ(Former Mitsubishi No.2 Dock House)ภายในจัดแสดงโมเดลเรือสำเภาของชาติต่าง ๆ ภาพวาดการเดินเรือในสมัยโบราณและภาพถ่ายของท่าเรือนางาซากิอันยิ่งใหญ่ ชั้นบนเป็นจุดชมวิวบริเวณท่าเรือนางาซากิได้ชัดที่สุด
 
ก่อนถึงคฤหาสน์ของโกลฟเวอร์ จะต้องเดินผ่านบ้านหรือคฤหาสน์ย่อม ๆ อีกหลายหลัง อาทิ
     - Walker House บ้านพักของ Robert Nale Walker ชาวอังกฤษ เจ้าของบริษัท Walker & Co. ทำธุรกิจการขนส่งทางทะเล ผู้ร่วมก่อตั้งบริษัทคิริน บริวเวอรี่ เจ้าของเบียร์คิรินอันลือเลื่องชื่อของญี่ปุ่นมาจนถึงทุกวันนี้
     - Ringer House  บ้านพัก Frederick Ringer ชาวอังกฤษ ทำงานในบริษัทของโกลฟเวอร์ ก่อนที่จะมีบริษัทของตนเอง ทำธุรกิจนำเข้า-ส่งออก มีโรงโม่แป้งและโรงไฟฟ้า
     - Alt House บ้านของ William Alt  พ่อค้าชาวอังกฤษ เจ้าของบริษัท Alt & Co. ซึ่งเป็นหุ้นส่วนกับ Kei Oura ร่วมกันผลิตชาเขียวส่งออกจนเป็นที่รู้จักไปทั่วโลก คฤหาสน์หลังนี้ก่อสร้างโดยฮิเดะโนชิน โคยามะ(Hidenoshin Koyama) ผู้ก่อสร้างโบสถ์โออุระ

บ้านแต่ละหลังเป็นพิพิธภัณฑ์ขนาดย่อม จัดแสดงข้าวของเครื่องใช้ ภาพถ่ายเรื่องราวของเจ้าของบ้านและคุณาประโยชน์ที่มีต่อชาวญี่ปุ่น ระหว่างทางลาดเนินก็มีไม้ดอกไม้ประดับหลากสีสันปลูกไว้สวยงามให้ไว้ได้แวะถ่ายรูป

Madame Butterfly  ก่อนถึงคฤหาสน์ของโกลฟเวอร์ มีรูปปั้นของทามากิ มิอุระ (Tamaki Miura)กับปุชชีนี สองตัวละครเอกในนวนิยายอันโด่งดังของจอห์น ลูเธอร์ (John Luther)เรื่องมาดาม บัตเตอร์ฟลาย(Madame Butterfly)เรื่องราวความรักของสาวญี่ปุ่นนามว่า “โจโจ้ซัง”

Glover House  คฤหาสน์โกลฟเวอร์(Glover House)เป็นอาคารไม้สไตล์ยุโรปชั้นเดียวสีฟ้าอ่อนหลังคามุงกระเบื้อง ภายในมีห้องหับหลายห้อง จัดแสดงข้าวของเครื่องใช้ เฟอร์นิเจอร์หรูหราและเรื่องราวของโธมัส โกลฟเวอร์ ครอบครัวและธุรกิจของเขาในญี่ปุ่น  
ที่นี่มีบริการเช่าชุดแบบโบราณของชาวยุโรปชาติต่าง ๆ ให้ใส่ถ่ายรูปเป็นที่ระลึก หากสนใจขอเช่าได้ที่บ้านประธานาธิบดี(Former house of the President of the Nagasaki Distric Court)ใกล้คฤหาสน์โกลฟเวอร์ ชุดละ 500 เยน ให้เวลา 30 นาที   หากใครเจอหินรูปหัวใจ (Heart Stone) บริเวณลานด้านหน้าคฤหาสน์โกลฟเวอร์ ก็จะสมหวังในความรัก



ก่อนออกจากสวนโกลฟเวอร์ มีอนุสาวรีย์ของโทมัส เบล็ก โกลฟเวอร์ ตั้งอยู่ มีข้อความสลักประวัติไว้ว่า “เกิดในสก็อตแลนด์ เข้ามาญี่ปุ่นเมื่อปีค.ศ.1859 เมื่ออายุได้ 21 ปี ผู้ก่อตั้งบริษัท Glover & Co. หลังสิ้นสุดการปกครองของโชกุน เขาเป็นผู้นำวิทยาการทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีสมัยใหม่มาพัฒนาญี่ปุ่น โกลฟเวอร์มีภรรยา(Awajiya Tsuru) บุตรและครอบครัวที่อบอุ่น จนกระทั่งเสียชีวิตลงในปีค.ศ.1911โตเกียว รวมอายุได้ 73 ปี ศพของเขาถูกฝังอยู่ที่สุสานนานาชาติซาคาโมโตะ(Sakamoto International Cemetery)”

การเดินทางไป Glover Garden
    -  จากสถานี Nagasaki นั่งรถรางสาย 1 แล้วเปลี่ยนเป็น 5 ที่สถานี Tsuki-machi นั่งไปลงที่สถานี Oura-Tenshudo-shita เดินขึ้นเนินไปประมาณ 5 นาที จะถึงโบสถ์คาทอลิคโออุระ เลี้ยวขวาไปจะถึงทางเข้า Glover Garden

เวลาเปิดให้เข้าชม   08.00-18.00  น.  
ค่าเข้าชม  ผู้ใหญ่  600 เยน เด็ก 300 เยน
« Last Edit: October 04, 2012, 10:25:52 AM by webdesign »